ดาวเตะค่าตัวแพงของเปแอสเชยังงานเข้าไม่เลิก ล่าสุดต้องพักยาวอีกราว 1 เดือน หลังได้รับบาดเจ็บที่บริเวณกล้ามเนื้อต้นขา

วันที่ 12 ก.พ.64 เนย์มาร์ ต้องถูกหามออกจากสนามอีกครั้ง หลังเล่นไปได้เพียงแค่ 60 นาที ในเกมที่ปารีส แซงต์ แชร์แมง เฉือนเอาชนะ ก็อง 1-0 ศึกเฟรนช์ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งหลังการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ล่าสุด เปแอสเช ได้ออกมายืนยันข่าวร้ายว่า เนย์มาร์ มีอาการบาดเจ็บที่บริเวณกล้ามเนื้อต้นขา และต้องพักยาวถึง 4 สัปดาห์

ทำให้ดาวเตะวัย 29 ปีรายนี้ จะหมดสิทธิ์ลงสนาม ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่จะพบกับบาร์เซโลนาแน่นอนแล้วทั้ง 2 นัด รวมถึงเกมลีก เอิง ที่จะพบกับ นีซ, โมนาโก, ดิฌง และ บอร์กโดซ์

สำหรับ เปแอสเช ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตารางคะแนนลีก เอิง โดยมีอยู่ 51 คะแนนจาก 24 นัด ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลีลล์ อยู่ 3 แต้ม

“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ตกเป็นข่าว ตั้งค่าตัวล่าสุดของ “ฟิลิปเป คูตินโญ” มิดฟิลด์เลือดแซมบ้า ถ้าได้น้อยกว่าที่กำหนดไว้ก็ไม่ปล่อยออกจากทีม

“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน จะไม่ปล่อย ฟิลิปเป คูตินโญ กองกลางทีมชาติบราซิลออกจากถิ่นคัมป์ นู ถ้าได้ข้อเสนอต่ำกว่า 87 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,522 ล้านบาท)

คูตินโญ วัย 27 ปี ถูกบาร์เซโลนาปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิก ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาลนี้ ซัดไปแล้ว 9 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์จากการลงเล่น 32 นัดรวมทุกรายการ

แต่ทีมเสือใต้ไม่พร้อมที่จะซื้อขาดส่งผลให้เขาตกเป็นข่าวเกี่ยวโยงกับกับการย้ายกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยมี เชลซี เป็นทีมเต็งที่จะได้ตัวไปร่วมทีม อย่างไรก็ตาม มุนโด เดปอร์ติโว ระบุว่า บาร์เซโลนา ไม่คิดจะขาย คูตินโญ ถ้าได้ค่าตัวน้อยกว่า 87 ล้านปอนด์

ทั้งนี้ คูตินโญ ย้ายจากทีมลิเวอร์พูล มาอยู่กับบาร์เซโลนา เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 ด้วยค่าตัว 145 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,870 ล้านบาท) แต่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนสมัยค้าแข้งกับหงส์แดง และมีแนวโน้มสูงมากว่าจะไม่ได้ไปต่อกับบาร์เซโลนาในฤดูกาลหน้า เนื่องจากบาร์ซามีปัญหาด้านการเงินจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงอาจจำเป็นต้องปล่อยนักเตะบางรายออกไป

“R9” โรนัลโด ตำนานลูกหนังเชื้อสายแซมบ้า ยืนยันไม่เคยคิดหันหลังให้กับ บาร์เซโลนา เลยแม้แต่น้อย 

“โรนัลโด” ยอดดาวเตะของโลก เจ้าของฉายา “โล้นทองคำ” ออกมาเผยถึงเรื่องราวในอดีตที่ต้องตัดสินใจย้ายรัง ออกจาก “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ไปซบกับ “ทัพงูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน 

ศูนย์หน้าจอมถล่มประตูชาวบราซิล เจ้าของตำแหน่งรางวัลบัลลงดอร์ 2 สมัยคนนี้ เคยเล่นให้กับบาร์เซโลนาในปี 1996-1997 ก่อนที่จะย้ายไปรับใช้ทัพงูใหญ่ตั้งแต่ปี 1997-2002 ด้วยค่าตัวสถิติโลก ณ ขณะนั้น ที่ราคา 19.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งมีโอกาสได้ออกมาเผยว่า ไม่มีเคยความคิดเรื่องการอยากย้ายออกจากถิ่น คัมป์นู อยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นทางทีมต้นสังกัดมากกว่าที่บีบเขาออกมาเอง

โดย R9 ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมได้ต่อสัญญาใหม่กับสโมสรออกไปถึงช่วงท้ายฤดูกาล ก่อนที่จะไปลงสนามรับใช้ทีมชาติบราซิล ซึ่งหลังจากนั้นอีกเพียง 5 วัน พวกเขาติดต่อกลับมาหาผม เพื่อบอกกับผมว่าเขาไม่สามารถต่อสัญญาใหม่ให้ได้ มันไม่ได้ติดอยู่ที่ตัวผม ซึ่งตอนนั้นผมเองก็อยากที่จะอยู่กับทีมต่อไป แต่เมื่อสโมสรไม่เห็นค่าผม และการตัดสินใจก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมแล้ว จริงๆแล้วผมอยากอยู่กับทีมนะ แต่ผมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจกับเรื่องนี้”

บาร์เซโลนา ทำได้เพียงเสมอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในแมตช์ประเดิมสนาม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มแบบไร้สกอร์โดย มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น งัดฟอร์มพระเอกเซฟจุดโทษให้กับทัพ อาซูลกรานา

เกมเริ่มต้นขึ้นด้วยโอกาสอย่างถนัดถนี่ของ มาร์โก้ รอยส์ ในช่วงต้นเกมแต่ไม่สามารถจบสกอร์ผ่าน แทร์ สเตเก้น ได้ ตามมาด้วย จาดอน ซานโช ยิงไกลข้ามคานออกไปก่อนจบครึ่งแรกเพียงไม่กี่นาที

หลุยส์ ซัวเรซ ได้จังหวะยิงหวังผลแต่ถูก โรมัน เบอร์กี้ เซฟพ้นอันตรายไว้ก่อนที่ เนลสัน เซเมโด้ จะเข้าสกัด ซานโช ทำให้ทีมเสียลูกจุดโทษโดย รอยส์ รับหน้าที่สังหารแต่เจ้าตัวยิงไปติดเซฟนายทวารเพื่อนร่วมชาติ ดาวเตะ เสือเหลือง พยายามที่จะตามเข้าไปซ้ำแต่ แทร์ สเตเก้น ก็ลุกขึ้นมาคว้าบอลไว้ได้ทัน

ก่อนที่จะจบเกม ยูเลียน บรันด์ท ถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองและได้สับไกยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งวาบชนคานอย่างจังเป็นจังหวะได้ลุ้นเหน่งๆ ครั้งสุดท้ายของเกมก่อนที่จะสิ้นเสียงนกหวีดยาวด้วยผลเสมอ 0-0

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ประเด็นสำคัญหลังเกม

พลพรรค เสือเหลือง ภายใต้การคุมทีมของ ลูเชียง ฟาฟร์ มักเป็นฝ่ายครอบครองบอลได้มากกว่าคู่แข่งเมื่อพวกเขาลงเล่นในศึก บุนเดสลีกา แต่สำหรับเกมกับ บาร์ซา พวกเขายืดหยุ่นปรับเกมให้เหมาะเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่เล่นเท้าสู่เท้าได้อย่างเป็นเลิศ

ดอร์ทมุนด์ ยินดีที่จะกระชับพื้นที่ของพวกเขาเองเพื่อสร้างความลำบากให้กับทีมเยือนโดยมี มัตส์ ฮุมเมลส์ เป็นผู้นำในแนวรับ ขณะที่แนวรุกรอบจัดของพวกเขาทั้ง จาดอน ซานโช, มาร์โก้ รอยส์ และ ธอร์แกน อาซาร์ คอยสนับสนุน ปาโก้ อัลคาเซร์ จากการเคลื่อนบอลจังหวะเดียวที่รวดเร็วโจมตีพื้นที่ว่างที่ด้านหลังของทัพ อาซูลกรานา

คะแนนนักเตะ

ผู้เล่น 11 คนแรก: เบอร์กี้ (6); ฮาคิมี (7), อคานยี (7), ฮุมเมลส์ (9*), เกร์เรย์โร (6); วิตเซลl (8), เดลานีย์ (6), รอยส์ (7); ซานโช (8), อาซาร์ (7), อัลคาเซร์ (6).

ตัวสำรอง: บรันด์ท (6), ลาร์เซน (6)

คีย์แมน – มัตส์ ฮุมเมลส์

เมื่อครั้งที่ ฮุมเมลส์ ตอบรับการย้ายกลับมาร่วมทัพ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อีกครั้งในซัมเมอร์ที่ผ่านมา เสียงของแฟน เสือเหลือง แตกเป็น 2 ฝ่ายเมื่อฝั่งหนึ่งยินดีกับการรีเทิร์นถิ่นเก่าอีกคำรบ ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งค่อนขอดว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่พวกเขาถูก บาเยิร์น มิวนิค ขูดรีด

ทว่าเกมในวันนี้ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วว่า ฮุมเมลส์ ยังคงเตะปี๊บดังเมื่อเซ็นเตอร์แบ็ควัย 30 ปีกลายเป็นผู้นำในแดนหลังของ ดอร์ทมุนด์ โดดเด่นกับทั้งการเข้าสกัดและการเซ็ตบอลจากแดนหลัง ซึ่งเป็นการยกระดับ เสือเหลือง จากฤดูกาลที่ผ่านมาอีกด้วย

บาร์เซโลนา

ประเด็นสำคัญหลังเกม

แม้ว่า บาร์เซโลนา จะเป็นฝ่ายรักษาการครอบครองบอลเมื่อเวลาของเกมผ่านไปแต่พวกเขากลับไม่สามารถสร้างโอกาสที่ชัดเจนได้จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงใกล้จะหมดครึ่งแรกตรงกันข้ามกับเจ้าถิ่นอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่า เสือเหลือง เป็นฝ่ายที่เล่นได้ตามแท็คติกและรูปเกมเข้าทางพวกเขามากกว่าแม้ว่าทีมเยือนจะส่ง ลิโอเนล เมสซี ลงมาประเดิมสนามนัดแรกของฤดูกาลก็ตาม

คะแนนนักเตะ

11 ผู้เล่นตัวจริง: แทร์ สเตเก้น (8*); เซเมโด้ (6), ปิเก้ (7), ล็องเลต์ (6), อัลบา (6); อาร์ตูร์ (7), บุสเก็ตส์ (7), เดอ ยอง (7); ฟาติ (7), ซัวเรซ (6), กรีซมันน์ (7)

ตัวสำรอง: โรแบร์โต้ (6), เมสซี (7), ราคิติช (6)

คีย์แมน – มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น

นายทวารมือหนึ่งของ บาร์เซโลนา กลายเป็นพระเอกในเกมนี้เมื่อก้าวขึ้นมางัดเซฟป้องกันลูกจุดโทษของ มาร์โก้ รอยส์ ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ที่ เวสต์ฟาเลนสตาดิโอน แถมด้วยโอกาสของเจ้าถิ่นที่สุ่มเสี่ยงจะเสียประตูในช่วงท้ายเกม