post

“CR7” สร้างสถิติใหม่อีกแล้ว หลังซัดแฮตทริกพา “โปรตุเกส” ถล่มเอาชนะ “ลักเซมเบิร์ก”

คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงโปรตุเกส สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว หลังซัดแฮตทริกพา ฝอยทอง ถล่ม ลักเซมเบิร์ก กระจุย ศึกคัดบอลโลก 2022

วันที่ 13 ต.ค. 64 ควันหลงหลังเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอ คืนวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่ง “ฝอยทอง” ทีมชาติโปรตุเกส ถล่ม ลักเซมเบิร์ก ไป 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 16 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม

ในเกมดังกล่าว คริสเตียโน โรนัลโด ปีกทีมชาติโปรตุเกสของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดไปคนเดียว 3 ประตู ในนาทีที่ 8, 13, และ 87 ส่งผลให้ โรนัลโด ซัดแฮตทริกในทีมชาติเป็นครั้งที่ 10 และกลายเป็นนักเตะชายที่ทำแฮตทริกในนามทีมชาติมากที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ยังทำให้สถิติรวมของ โรนัลโด วัย 36 ปี ในนามทีมชาติ ซัดไปแล้วถึง 115 ประตู จากการลงสนาม 182 นัด มาจากการยิงด้วยเท้าซ้าย 26 ครั้ง เท้าขวา 61 ครั้ง และลูกโหม่ง 28 ครั้ง แบ่งเป็นลูกฟรีคิกโดยตรง 10 ครั้ง โอเพ่น เพลย์ 89 ครั้ง และจุดโทษ 16 ครั้ง

post

“CR7” ใกล้ทำสถิติ ล่าสกอร์ครบ 50 ประตูใน 3 ลีกใหญ่ ได้แล้ว

Football-320

“คริสเตียโน โรนัลโด้” กำลังจะกลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำประตูได้ 50+ ประตู ใน 3 ลีกใหญ่ของยุโรป หากสามารถมีชื่อทำประตูในเกมเซเรีย อา คืนวันนี้ ได้

ดาวยิงเลือดฝอยทอง กำลังจะกลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูได้อย่างน้อย 50 ประตูใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน และ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หากสามารถทำประตูได้ในเกมที่ ยูเวนตุส จะพบ ซาสซูโอโล่ ในคืนวันที่ 15 ก.ค. 63 นี้

ดาวเตะวัย 35 ปี กำลังเข้าใกล้ความจริงในการทำสถิติยิงประตูครึ่ง 100 โดยเวลานี้ โรนัลโด้ ยิงประตูใน เซเรีย อา ไปแล้ว 49 ประตู

สื่อลูกหนังชื่อดังยังออกมาเผยอีกว่าตอนนี้อดีตแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นให้ทัพ “เบียงโคเนรี” ไปแล้ว 59 นัดในลีก และมันก็อาจช่วยให้โรนัลโด ทำประตูทะลุ 50 ลูกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เซเรีย อา ด้วยเช่นกัน

โรนัลโด ทำประตูเกิน 50 ประตูในอิตาลี หลังจากเล่นไป 70 เกม โดยมีเพียง อังเดร เชฟเชนโก เท่านั้นที่ทำประตูได้ไวกว่าจากการเล่น 69 นัด

สำหรับ โรนัลโด ย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2018 ที่ผ่านมาทำไป 84 ประตูในพรีเมียร์ลีกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และทำอีก 311 ประตูในลา ลีกา ในช่วงที่ค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด

ที่ผ่านมา เอดิน เชโก ถือเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้อย่างน้อย 50 ประตู ถึง 3 จาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป ในปี 2018 โดยทำได้ที่อังกฤษ, อิตาลี และเยอรมนี

post

“บาร์ซ่า” เฉือนชนะ “บิลเบา” 1-0 และขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง

Football-317

“ลิโอเนล เมสซี” ยังไม่สามารถยิงประตูที่ 700 ให้กับตนเองได้ หลังไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่มาได้ “อิวาน ราคิติช” ซัดประตูให้ “บาร์เซโลนา” ชนะ “บิลเบา” 1-0

ศึกลูกหนังลาลีกา สเปน นัดที่ 31 ฤดูกาล 2019-2020 ประจำคืนวันอังคารที่ 23 มิ.ย. 2563 คู่ไฮไลท์ระหว่างรองจ่าฝูง บาร์เซโลนา เปิดถิ่นคัมป์ นู พบกับ แอธเลติก บิลเบา ทีมในอันดับที่ 10 

ครึ่งแรกเป็นไปตามคาด บาร์เซโลนา เปิดฉากปูพรมโหมกระหน่ำเดินหน้าบุกเต็มที่ แต่เป็นทีมเยือนได้ทักทายก่อนจาก อินากิ วิลเลียมส์ ที่ยิงไปติดข้างตาข่าย ส่วนเจ้าบ้านได้โอกาสส่องเป็นครั้งแรกจาก หลุยส์ ซัวเรซ แต่ก็ยังไปติดเซฟของอูไน ซีมอน ขณะที่แนวรับของ บิลเบา ก็ยังเล่นได้อย่างดีเยี่ยมเอา ลิโอเนล เมสซี ไปไม่เป็นในหลายๆ จังหวะ ก่อนจบ 45 นาทีแรก แบบไร้สกอร์ 

ครึ่งหลังก็ยังเป็น บาร์เซโลนา มุ่งมั่นจะเอาประตูขึ้นนำให้ได้จนมาสำเร็จในนาทีที่ 72 เมสซี ได้บอลขลุกขลิกในกรอบเขตโทษ ก่อนทะลุไปถึง อิวาน ราคิติช ที่เติมขึ้นมาได้กดด้วยขวาแสกหน้าซีมอนเข้าไป 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม บาร์เซโลนา เปิดบ้านเฉือน แอธ.บิลเบา 1-0 ทะยานขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง โดยมีแต้มนำ เรอัล มาดริด 3 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ขณะที่บิลเบารั้งที่ 10 ตามเดิม มี 42 คะแนน

post

“คลอปป์” มีลุ้นพาทัพ “หงส์แดง” ทำ 2 ประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับทีม

Football-304

“เยอร์เกน คลอปป์” กุนซือเมืองเบียร์ของทีม “หงส์แดง” ยอดทีมจากอังกฤษ มีแววที่จะนำสโมสรต้นสังกัดสร้างอีก 2 ประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ

เป็นที่รู้กันอยู้แล้วว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ยอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์ นำโด่งจ่าฝูง มี 79 คะแนนจากจำนวน 27 นัด ขณะที่ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด อยู่อันดับที่ 19 มีแค่ 24 แต้มจากจำนวนนัดที่แข่งเท่ากัน

โดยมีสถิติระบุว่า ทีมของ เยอร์เกน คลอปป์ ขอแค่มีแต้มไม่ว่าจะชนะหรือเสมอ พวกเขาก็สร้างอีก 1 ประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นทีมแรกที่เก็บได้ 80 คะแนนเร็วที่สุด

และการเป็นการสร้างสถิติชนะในลีกติดต่อกันมากที่สุดด้วยจำนวน 19 นัด หลังเพิ่งทาบสถิติชนะรวด 18 นัดไปหมาดๆ หลังเกมพลิกแซงกลับมาเอาชนะ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-2 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

post

โลกแตกจะทำได้หรือเปล่า ? 5 สถิติพรีเมียร์ลีกที่ยากจะทำลาย

Football-188

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในวงการลูกหนังยุโรปนับตั้งแต่ที่ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อฤดูกาล 1992/93 ซึ่งถูถนำมาแทนที่การแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 เมืองผู้ดี โดยมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ 13 สมัย โดยรวมทั้งหมดในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดอยู่ที่ 20 สมัย

    ตลอดระยะเวลา 27 ปีในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก มีนักเตะชั้นยอดมากมายที่เดินทางมาค้าแข้งในเมืองผู้ดีกับหลายๆ สโมสร โดยนักเตะเหล่านี้ยังได้สร้างความทรงจำเอาไว้ในเกมลีกมากมาย โดยเฉพาะกับการสร้างสถิติที่ถือว่าน่าเหลือเชื่อมากๆ

    จากคำโบราณที่บอกว่า “สถิติมีไว้เพื่อทำลาย” อาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่สถิติบางอย่างมันก็ยากจะทำลายได้จริงๆ โดยเฉพาะในการแข่งขันลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เพราะสถิติเหล่านี้เมื่อมองดูแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะมีใครสามารถทำลายลงได้ในอนาคตอันใกล้นี้ 

1. ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด – อลัน เชียเรอร์ 260 ประตู (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส)

Football-189

    สำหรับการยิงประตูจำนวน 260 ลูกในลีกสูงสุดประเทศอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ฉะนั้นคงไม่ผิดอะไรที่จะยก “ฮอตชอต” อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ คือตำนานของพรีเมียร์ลีก เพราะผลงานที่เขาสร้างเอาไว้มันยากจะทำลายได้จริงๆ

    เชียเรอร์ ซึ่งได้รับการเชิดชูว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดกองหน้าที่ดีที่สุดของ อังกฤษ ยิงประตูมากมายก่ายกองจากการเล่นให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตามด้วย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งเขามีอัตราการตะบันตาข่ายคู่แข่งถึง 0.59 ประตูต่อแมตช์ ขณะเดียวกันยังทำ 64 แอสซิสต์ด้วย

Football-190

    นอกจากสถิติการยิงประตูถล่มทลายแล้ว เชียเรอร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ซัดแฮตทริกมากที่สุด ยังมีสถิติการยิงประตูจากในเขตโทษ และจุดโทษ มากมายมหาศาล กระนั้นสถิติการซัดแฮตทริกของเขาอาจจะโดนทำลายในเร็วๆ นี้ เพราะ เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตะบันแฮตทริกไปแล้ว 11 ครั้งซึ่งเท่ากับ “ฮอตชอต” และดูเหมือนจะทำได้อีกหากยังค้าแข้งกับ “เรือใบสีฟ้า” ต่อไป

    ตอนนี้มีนักเตะเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่ตะบันประตูเกิน 200 ลูกในพรีเมียร์ลีก ได้แก่ เชียเรอร์ กับ เวย์น รูนี่ย์ ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ซึ่งว่ากันว่าเป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดของ อังกฤษ ในเวลานี้ ซัดไปแล้ว 128 ประตูให้กับ สเปอร์ส ในวัยเพียง 26 ปี เขาอาจจะทำสถิติแซงหน้าตำนานเบอร์ 9 ทัพ “สิงโตคำราม” ไหม ? เวลาเท่านั้นที่่จะบอกได้ !!!

2. โหม่งทำประตูมากที่สุด – ปีเตอร์ เคร้าช์ 53 ประตู (แอสตัน วิลล่า, เซาธ์แฮมป์ตัน, ลิเวอร์พูล, พอร์ทสมัธ, สเปอร์ส และสโต๊ค ซิตี้)

Football-191

    ในพรีเมียร์ลีกมีกองหน้าทำประตูมากมาย แต่สำหรับ ปีเตอร์ เคร้าช์ โดดเด่นเป็นสง่ากว่าดาวยิงคนอื่นๆ เพราะประตูเกือบครึ่งที่เขาทำได้ในลีกสูงสุดมากจากหัวกบาล ฉะนั้นต้องยอมรับว่า ดาวยิงร่างโย่ง เป็นนักฟุตบอล “หัวดี” อย่างไม่ต้องสงสัย

    เป็นเรื่องปกติเมื่อ เคร้าช์ ลงสนามเขาจะโดดเด่นกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ เนื่องจากมีรูปร่างสูงโย่งผอมเกร็ง ฉะนั้นด้วยธรรมชาติที่เกิดมาได้เปรียบทำให้เจ้าตัวใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในการโหม่งทำประตู แน่นอนว่าตลอดช่วงเวลาเกือบ 20 ปีที่โลดแล่นในวงการลูกหนัง อดีตเด็กปั้น สเปอร์ส ยิงประตูด้วยการโหม่ง 53 ลูกก่อนที่จะแขวนเกือกเมื่อเดือนกรกฎาคมนี้ 

Football-192

    เคร้าช์ ทำประตูด้วยลูกโหม่งกับทุกๆ สโมสรที่เขาเคยค้าแข้งด้วย รวมทั้งในยามที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ แต่เขาต้องผิดหวังในการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายกับการค้าแข้งให้กับสโมสรสุดท้ายนั่นก็คือ เบิร์นลี่ย์ เมื่อได้ลงสนาม 6 แมตช์แต่ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดเลย 

    อย่างไรก็ตาม สามีของ  แอ็บบี้ แคลนซี่ นางแบบสุดเซ็กซี่ ได้สร้างชื่อให้โลกจดจำไปแล้ว เมื่อเขาถูกบันทึกเอาไว้ในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดเมื่อปี 2018 ว่าเป็นนักฟุตบอลที่โหม่งประตูมากที่สุด 

Football-193

    ทั้งนี้ เชียเรอร์ ซึ่งยิงประตูในลีกมากที่สุด ใช้กบาลโหม่งบอลเข้าประตู 46 ลูก โดย 87 เปอร์เซ็นต์จากประตูที่ทำได้มาจากในกรอบเขตโทษ ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ประตูจากการเล่นบอลโยนยาว โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกองหลังตัวใหญ่ตามประกบ แต่ เคร้าช์ เป็นกรณียกเว้น

3. แอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก – ไรอัน กิ๊กส์ 162 ครั้ง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)  

Football-194

    ตำนานปีกพ่อมดเลือดเวลส์ ได้เขียนชื่อตัวเองเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นอยู่กับสโมสรเดียวจนกระทั่งแขวนเกือก นั่นก็คือ แมนนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

    ไรอัน กิ๊กส์ สวมชุด “เร้ด เดวิลส์” ลงสนามถึง 22 ฤดูกาล ซึ่งเขาเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือทีมคู่แข่งในลีก นั่นก็คือการนำสโมสรคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) เมื่อฤดูกาล 1998/99 และสะสมโทรฟี่แชมป์ไปถึง 34 รายการ

Football-195

    กิ๊กส์ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงที่ใช้เวลาค้าแข้งกับสโมสร โดยเฉพาะการเติมเกมบุกในพื้นที่สุดท้าย แม้ “กิ๊กซี่” จะไม่ได้ชื่อว่าเป็นจอมถล่มประตูเพราะเขาซัดไป 109 ลูกให้กับต้นสังกัด แต่ความสามารถในการกระชากลากเลื้อยหนีคู่แข่ง และส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตู ส่งให้เขากลายเป็นตำนานจนทุกวันนี้

    อดีตปีกทีมชาติเวลส์ ซึ่งตัดสินใจแขวนเกือกในปี 2014  และปัจจุบันทำหน้าที่กุมบังเหียนทีมชาติเวลส์ ยังคงเป็นยอดนักเตะที่ป้อนบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้มากที่สุด โดยยากที่จะมีใครทำสถิติแซงหน้าได้

4. คลีนชีตมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก – ปีเตอร์ เช็ก 202 คลีนชีต (เชลซี, อาร์เซน่อล)

Football-196

    ปีเตอร์ เช็ก ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่เหนียวหนึบที่สุดในยุคของเขา และเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้รับการจดจำมากที่สุดซึ่งต้องขอบคุณเฮดการ์ดที่เจ้าตัวใส่ลงสนามเป็นประจำ แต่เรื่องนี้มีเหตุผลเนื่องจากเจ้าตัวเคยประสบเหตุกะโหลกร้าวตอนที่ช่วยทีมปะทะกับ เรดดิ้ง เมื่อปี 2006

    หากมีการพิจารณาผู้รักษาประตูที่เก่งที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก เช็กสามารถขึ้นทำเนียบนี้ได้เลยเพราะสถิติที่เขาสร้างเอาไว้ในยิ่งใหญ่เกินจะบรรยาย คิดดูก็แล้วกันจะมีโกลคนไหนที่สามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 202 แมตช์ตลอดระยะเวลาที่เฝ้าเสาให้กับ เชลซี และ อาร์เซน่อล

Football-197

    คิดดูก็แล้วว่า ตำนานนายทวารทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลลีกสูงสุดที่ช่วยต้นสังกัดไม่เสียประตูมากกว่า 200 เกม 

    เช็ก ก้าวขึ้นสู่จุดสุดยอดตั้งแต่วัยรุ่น โดยเขาย้ายมาเล่นกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” ในฤดูกาล 2004/05 เขาคงไม่สามารถขออะไรที่ดียิ่งกว่านี้ได้อีกแล้วกับการเริ่มต้นอาชีพในประเทศอังกฤษ โดย เช็ก ยึดมือ 1 มาจาก คาร์โล คูดิชินี่ ซึ่งตอนนั้นต้องพักฟื้นร่างกายจากอาการบาดเจ็บ ได้อย่างเหนียวแน่น แถมยังทำสถิติเก็บ 24 คลีนชีตในซีซั่นนั้นด้วย

Football-198

    ที่สำคัญสถิติ 24 คลีนชีตจากการเล่น 38 แมตช์ในฤดูกาล 2004/05 ยังไม่มีนายทวารคนไหนทำลายได้  และนั่นเป็นส่วนหนึ่งจากสถิติ 202 คลีนชีต ต้องบอกว่านี่อาจจะเป็นหนึ่งในสถิติที่ยากจะทำลายได้จริงๆ โดย ดาบิด เด เคอา มือ 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติใกล้เคียงแต่ก็ยังห่างไกลโดยทำ 120 คลีนชีต 

     สำหรับในยุคฟุตบอลสมัยใหม่ เช็ก ถือเป็นนายทวารที่สร้างความประทับใจมากๆ เพราะมีความสุข, แข็งแกร่ง, ใจกล้า และมีปฏิกิริยารวดเร็วว่องไว รวมทั้งยืนตำแหน่งได้ดีเยี่ยม โดยหลังจากที่ตัดสินใจแขวนถุงมือเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ตอนนี้เขาหันไปทำหน้าที่ใหม่ด้วยการรับงานเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคและศักยภาพคนใหม่ของ เชลซี

5. ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด – แกเร็ธ แบร์รี่ 653 เกม (แอสตัน วิลล่า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์บรอมวิช)

Football-199

     แกเร็ธ แบร์รี่ ซึ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2012 ปัจจุบันยังคงเป็นนักฟุตบอลที่ลงสนามในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมากที่สุดจำนวน 653 เกม 

    การโลดแล่นบนสังเวียนหญ้าเขียวขจีมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากการเล่นให้ แอสตัน วิลล่า ซึ่งเขาใช้เวลานานถึง 12 ปี จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม เขาใช้เวลาค้าแข้งในอังกฤษมาตลอดโดยเล่นในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 21 ฤดูกาล และเคยผ่านการลิ้มรสชาติในการเล่นระดับแชมเปี้ยนชิพตอนที่นำ เวสต์บรอม ตกชั้นในปี 2018

Football-200

    แม้ว่า แบร์รี่ จะเป็นนักฟุตบอลที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดก็ตาม แต่หากจำนวนซีซั่นที่เล่นในลีกสูงสุดยังคงเป็นรอง ไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งอยู่โชว์ฝีเกือกในพรีเมียร์ลีก 22 ฤดูกาล (แบร์รี่ 21 ซีซั่น)