post

แม่นเลย!ย้อนฟังมูรินโญ่ทำนายอนาคตแม็คโทมิเนย์

Football-280

ย้อนฟังคำทำนายของ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีต่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก่อนเวลานี้กลายเป็นจริงแล้ว ขณะที่แฟนบอล “ปีศาจแดง” รับต้องชม “เฮียมู” ที่เป็นคนเปิดโอกาสให้แข้งสกอตต์ได้ลงเล่น

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังได้รับคำชมอย่างมาก หลังทำผลงานได้เยี่ยมในฤดูกาลนี้ รวมทั้งเกมล่าสุดที่ “ปีศาจแดง” บุกไปชนะ เชลซี 2-1 ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 4 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    มิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะกำลังสำคัญของ “ปีศาจแดง” โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมขาด ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส โดยได้ลงเล่นตัวจริงในเกมลีกทุกแมตช์ เพราะถือเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญในแผนการสร้างทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

    ก่อนหน้านี้ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยออกโรงชม แม็คโทมิเนย์ ว่าจะมีอนาคตสดใสแน่นอน และยกให้เป็น “หมาบ้า” คนใหม่ของ “ปีศาจแดง” หลังจากให้โอกาสได้ลงเล่นในช่วงที่ตัวเองยังทำงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

        มูรินโญ่ แสดงความเห็นไว้ตอนที่ “ปีศาจแดง” เจอกับ บาร์เซโลน่า ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้วว่า “บาร์เซโลน่า ไม่ได้เป็น บาร์เซโลน่า ในเกมนี้ ผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะ 1 คนที่มีส่วนกับเรื่องนี้ เนื่องจากผมคิดว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำได้เยี่ยมในแผงมิดฟิลด์”

    “เขาทำได้เหมือนที่ผมเคยเรียกเขา แต่สิ่งที่ผมเรียกมันสื่อไปในแง่ดีนะ นั่นก็คือ เขาเป็นเหมือนหมาบ้า เขาไม่กลัวใคร ต้องยอมรับเขา เขากดดันหนัก และเคลื่อนที่ไปในที่ที่ต้องเข้ากดดันคู่แข่ง เขากดดันสูง และสร้างปัญหาให้กับการขึ้นเกมของ บาร์เซโลน่า” มูรินโญ่ กล่าว

    ขณะที่ ดาวเตะวัย 22 ปี เผยว่า ตนยังคงติดต่อกับ มูรินโญ่ อยู่เสมอ แม้ว่า “เฮียมู” จะโดนไล่ออกจากตำแหน่งไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา และยอมรับว่า เป็นหนี้บุญคุณกุนซือชาวโปรตุกีส อย่างมาก

        แม็คโทมิเนย์ เปิดใจว่า “แน่นอนผมไม่อยากพูดอะไรมากนักเกี่ยวกับผู้จัดการทีมคนก่อน แต่ โชเซ่ เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ สำหรับผม เขายังคงติดต่อกับผมในเวลานี้ และมักจะติดต่อมาหาผมหลังจบการแข่งขันบางนัด”

        “เขามีพื้นที่พิเศษอยู่ในใจผมเสมอ และในหัวใจของครอบครัวผม เพราะเขาเป็นคนที่ให้ผมได้เข้ามาอยู่ในทีม เขาเชื่อมั่นในตัวผม เขาเป็นคนที่พร้อมให้ความเชื่อมั่นกับคุณ ผมเป็นหนี้บุญคุณเขามากมายมหาศาล เพราะถ้าไม่มีเขา ผมก็อาจไม่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้” กองกลางสกอตต์ เผย

    ด้าน แฟนบอล “ปีศาจแดง” หลายราย แสดงความเห็นในโลกออนไลน์ถึง มูรินโญ่ กับ แม็คโทมิเนย์ อาทิผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ชื่อว่า @nigej77 ที่ทวีตข้อความว่า “มูรินโญ่ คิดถูกเกี่ยวกับ แม็คโทมิเนย์ นักเตะชั้นยอด”

    ขณะที่ @ORohitO แสดงความเห็นว่า “ผมเกลียดหลายอย่างเกี่ยวกับ มูรินโญ่ แต่ผมจะเป็นหนี้เขาตลอดไปที่ให้ แม็คโทมิเนย์ ได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่” 

post

แมนฯ ยูไนเต็ด vs อาร์เซน่อล : เกมสนุกที่แทบไม่เหลือมนต์ขลัง

Football-227

คำพูดของ รอย คีน อดีตกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พูดใส่ ปาทริค วิเอร่า อดีตกัปตันทีม อาร์เซน่อล ว่า “เดี๋ยวฉันจะไปเจอแกในสนาม”, การที่นักเตะ “ปีศาจแดง” ทำฟาวล์แบบไม่สมควรใส่นักเตะ “ไอ้ปืนใหญ่” หลายครั้งใน “ศึกแห่งบุฟเฟ่ต์”, การที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดนปาพิซซ่าใส่หลังจบเกม ฯลฯ คือตัวอย่างที่มักจะถูกพูดถึงกัน เมื่อพูดถึงเรื่องความดุเดือดเกี่ยวกับความเป็นคู่แข่งกันระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล

    เป็นเวลาหลายปีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล คือคู่อริที่มีความดุเดือดมากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ จนถึงขนาดที่ว่าทางสถานีโทรทัศน์เคยยอมเลื่อนเกมการแข่งขันจากเวลาบ่าย 3 โมง ที่ไม่ใช่ช่วงที่มีคนดูมากเท่าไหร่ ไปเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของสถานี เพื่อที่จะได้เพิ่มเรตติ้ง ขณะที่เกมนัดชิงชนะเลิศของ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 2004-05 ที่ อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายชนะในช่วงดวลจุดโทษนั้น มันก็มีคนชมเกมนี้ทั่วโลกถึงมากกว่า 480 ล้านคนด้วยกัน

Football-228

    นอกจากนี้ เกมลีกที่ทั้งคู่ลงเจอกันก็มักจะถูกมองว่าเป็นเกมที่มีความสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ลีกมากๆ จนทำให้นักเตะของทั้งสองทีมเตะกันเหมือนกะเอาให้อีกฝ่ายตาย และเหมือนจับดาบลงไปทำสงครามกัน จนทำให้เคยมีใบเหลืองใบแดงปลิวว่อนไปหมด

    น่าเศร้าที่ปัจจุบันความดุเดือดของการเป็นคู่อริกันระหว่างทั้งคู่หายไปเยอะ จริงอยู่ในด้านรูปเกมแล้วมันอาจจะยังทำให้แฟนบอลรู้สึกสนุกในระดับหนึ่ง เพราะหนสุดท้ายที่การเจอกันของทั้งคู่จบลงด้วยการเสมอกันแบบไร้สกอร์ในเกมแบบมีความหมายมันต้องย้อนไปถึงเกมลีกนัดที่เจ๊ากัน 0-0 ที่บ้านของ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2014 แต่ความดุเดือดของการแข่งขันก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม โดยในรอบ 10 เกมหลังสุดของการเจอกันในทุกรายการ มันมีคนโดนไล่ออกแค่คนเดียว นั่นคือ ปอล ป็อกบา ที่โดนใบแดงเมื่อปี 2017 แต่วันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังชนะไป 3-1

Football-229

    ทั้งนี้ หลายคนมองว่าสิ่งที่เป็นเหมือน “จุดจบ” ของความเป็นคู่อริกันของทั้งคู่คือการที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินว่า อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตยอดนายใหญ่ของ อาร์เซน่อล ไม่สามารถทำให้ทีมมีลุ้นแย่งแชมป์กับเขาได้อีกต่อไป แถมยังมีการมาถึงของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ตอนนั้นเป็นกุนซือหนุ่มสุดห้าวด้วย

    นอกจากนี้ ทั้งสองทีมยังทำการซื้อ-ขายนักเตะกันแบบเป็นมิตรในระดับหนึ่งในช่วงตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็น มิกาแอล ซิลแวสต์ ที่ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปซบ อาร์เซน่อล ในปี 2008, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่บอกลากรุงลอนดอนมาอยู่กับทีมสีแดงของเมืองแมนเชสเตอร์ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจของตัวเองในปี 2012, แดนนี่ เวลเบ็ค ที่เดินทางลงไปกรุงลอนดอนแทนในปี 2 ปีต่อมา และดีลย้ายสลับขั้วสุดฮือฮาระหว่าง อเล็กซิส ซานเชซ กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่สุดท้ายก็ล้มเหลวกับทีมใหม่ทั้งคู่ ทั้งที่ถ้าเป็นสมัยที่ยังเป็นคู่อริกันแล้วนั้น มันแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะเกิดการทำธุรกิจกันระหว่างทั้งสองทีม

Football-230

    สิ่งที่เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับความเป็นคู่อริกันของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ก็คือ เดิมพันจากการที่เคยขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กัน แทบจะเหลือเพียงการ “ชิงอันดับในกลุ่มบนของตารางคะแนน” กันเท่านั้น หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาผลงานของทั้งสองทีมต่างก็ถือว่าน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ในอดีต จนแทบจะไม่มีนัดไหนเลยที่ตอนนั้นทั้งสองทีมอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์พร้อมๆ กัน อย่างดีที่สุดคือตอนนั้นมีเพียงทีมเดียวที่มีลุ้นแชมป์

    อาร์เซน่อล ถูกหลายคนปรามาสว่าหลุดจากกลุ่มลุ้นแชมป์มานานแม้กระทั่งตั้งแต่ตอนที่ เวนเกอร์ ยังอยู่ในตำแหน่งแล้ว โดยแชมป์ลีกครั้งล่าสุดของพวกเขาต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 2003-04 และแม้ว่าในซีซั่นต่อมาพวกเขาจะเป็นรองแชมป์ แต่ก็มีแต้มน้อยกว่า เชลซี ที่เป็นแชมป์ถึง 8 แต้ม นอกจากนี้ ถ้านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาร์เซน่อล ก็เป็นรองแชมป์อีกเพียงแค่ครั้งเดียว นั่นคือซีซั่น 2015-16 แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าอวดเท่าไหร่ เพราะพวกเขาแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ ถึง 10 คะแนน

Football-231

    ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อย่างที่รู้กันดีว่าล้มเหลวอย่างหนักนับตั้งแต่หมดยุคของ เฟอร์กูสัน ถึงแม้จะมีแชมป์บอลถ้วยอยู่บ้าง แต่ในลีกก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะคว้าแชมป์สมัยที่ 21 มาครองได้ โดยหลังจากที่ เฟอร์กูสัน วางมือจากการคุมทีมไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2013 “ปีศาจแดง” ก็ติดท็อปโฟร์เพียงแค่ 2 ครั้ง และแม้จะเป็นรองแชมป์ลีก 1 หน ในฤดูกาล 2017-18 แต่มันก็ไม่ได้น่าภูมิใจเหมือนกัน เพราะพวกเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 19 คะแนน

    แน่นอน เกมในวันจันทร์นี้มีโอกาสที่รูปเกมในสนามจะน่าตื่นตาตื่นใจ อย่างเช่น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีดาวรุ่งฟอร์มฮอตอย่าง แดเนี่ยล เจมส์ หรือ อาร์เซน่อล ที่มีกองหน้าชั้นยอดอย่าง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง แต่ในเรื่องการเตะกันแบบเหมือนกับว่าสนามบอลเป็นเหมือนสนามรบคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะดีกรีความเป็นคู่แข่งกันมันเบาลงไปเยอะ

Football-232

    และเกมในวันจันทร์นี้ก็จะเป็นอีก 1 นัดที่การเจอกันระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล เป็นเพียงการสู้กันเพื่อ “ชิงอันดับที่ดี” ไม่ใช่การลุ้นแชมป์เหมือนในอดีต ซึ่งมันก็ทำท่าว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกพักหนึ่งด้วย

Football-233

เกร็ดที่น่าสนใจ
    – การเจอกันครั้งแรกในเกมแบบเป็นทางการ – ดิวิชั่น 2 วันที่ 13 ตุลาคม 1894 โดยที่ นิวตัน ฮีธ (ชื่อเดิมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ วูลวิช อาร์เซน่อล 3-3
    – เกมที่ยิงกันเยอะที่สุด – แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซน่อล 8-2 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2011
    – ครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล บุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อนับรวมทุกรายการ – เกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2014-15 อาร์เซน่อล ชนะ 2-1
    – ครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล บุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมลีก – ปี 2006 อาร์เซน่อล ชนะ 1-0

post

จะอยู่ถึงแดงเดือดมั้ย?

Football-222

    และอีกอึดใจเดียว ผลลัพธ์ก็จะปรากฏออกมาแล้วว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สามารถแก้หน้าจากที่พาทีมออกไปแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบหมดสภาพ 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกได้หรือเปล่า

    แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นายใหญ่ชาวนอรเวย์ก็ได้รับเกียรติจากบริษัทรับพนันหลายเจ้ายกให้เป็น “เต็งสอง” ที่จะตกเก้าอี้ โดยมี มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน รั้งตำแหน่ง “เต็งจ๋า” ชนิดที่ไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนอยากยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ในจุดนี้

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ หาก ผีแดง มีผลงานที่ไม่เอาไหนในเกมต้อนรับ สมันน้อย ขึ้นมาแล้วล่ะก็ มันก็ไม่แน่ว่า โซลชา อาจผงาดขึ้นเป็น  “เต็งหาม” คนใหม่แทนที่ ซิลวา เลยก็ได้

    ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น นัดต่อไปในเกมปะทะกับ อาร์เซน่อล ทำศึกพรีเมียร์ลีกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มันก็อาจเข้าข่าย “เกมแห่งชีวิต” ของกุนซือหน้าทารกเลยก็ว่าได้

    และสำหรับนาทีนี้ ไม่ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องต่อกรกับคู่แข่งรายไหน พวกเขาก็พร้อมเดินออกจากสนามในสภาพคอตกเสมอเนื่องจากมีผลลัพธ์ที่เลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก

    เท่านั้นไม่พอ จะสังเกตได้ว่า ยิ่งคุมทีม โซลชา ก็ยิ่งหมดมุก และมันฟ้องให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนที่จะกอบกู้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย

    ก็ขนาดกุนซือระดับอ๋องทั้ง หลุยส์ ฟาน กัล และ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังพาทีมกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ไม่ได้ แล้วดีกรีอย่าง โซลชา จะทำได้สำเร็จล่ะหรือ?

    ว่ากันตามจริง ขุนพล ผีแดง ชุดปัจจุบันนี้มีฝีเท้าที่ด้อยคุณภาพอย่างแรง ไม่ผ่านมาตรฐานของทั้ง อย. มอก. และ ฯลฯ

    ฉะนั้นแล้ว จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าเหลือหลายที่สโมสรใช้เงินในจุดนี้ได้อย่างไม่คุ้มค่า

    เพราะไม่ว่าจะดึงใครเข้ามาเสริมทัพก็ล้วนเอาดีไม่ได้ซะเป็นส่วนใหญ่

    ต่อประเด็นนี้ มันเป็นปัญหาเรื้อรังของทีมลูกหนังตรา ปีศาจถือสามง่าม มานานหลายปีดีดักแล้ว อันทำให้สื่อปักใจมโนกันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมผุดตำแหน่ง ผู้อำนวยการฟุตบอล มาดูแลงานสำคัญด้านนี้

    แต่จนแล้วจนรอด จวบจนวันนี้ มันยังเป็นสิ่งที่สื่ออิงลิชหมกมุ่น และงมงายกันไปเอง

    แถมล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดีตนายทวารของสโมสรที่โดนโยงชื่ออีกรอบได้เปิดปากปฏิเสธข่าวลือแล้วว่าไม่คิดอำลาตำแหน่งซีอีโอของ อาแจ็กซ์ กลับมารับงานในรั้วโรงละครอย่างที่สื่อพยายามโมเม

    นอกจากนักเตะในทีมจะไม่เอาไหนแล้ว กุนซือระดับอย่าง โซลชา ก็พิสูจน์ตัวเองมาไม่มากพอ มันจึงเป็นสองแรงบวกทำให้ ผีแดง ตกต่ำดำดิ่งไม่เลิก

    รวมแล้วนับตั้งแต่ได้กุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ โซลชา ถูกแฉสถิติออกมาว่าเขาทำได้แค่พาทีมรั้งอันดับที่ 13 ของตารางพรีเมียร์ลีกเท่านั้น

    คิดดูก็แล้วกันว่ามันน่าหดหู่ขนาดไหนสำหรับอดีตยักษ์ใหญ่ที่เคยรุ่งเรืองคับเกาะอังกฤษ

     พูดได้เลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีพร้อมทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกำลังเงินที่ไม่เป็นรองใครทั้งนั้น

    หากแต่สิ่งที่พวกเขาเป็นรองหลายๆทีมก็คือบุคคลากรนั่นเอง

    ดังคำกล่าวที่ว่าชาติจะพัฒนาได้ก็ต้องอาศัยประชากรที่มีคุณภาพ

    หรือไม่หากเปรียบเป็นกองทัพ นาทีนี้แม่ทัพอย่าง โซลชา ก็ไม่ได้กร้างแกร่งมากพอที่จะบัญชาการรบได้เลย

    เรียกว่าต่อให้รบกี่รอบก็เตรียมตัวแพ้ได้เลยว่างั้น

    และมันแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอยู่แล้วว่า โซลชา จะต้องกระเด็นออกจากโรงละคร ไม่ช้าก็เร็ว

    ถึงตอนนี้ บอร์ด ผีแดง ได้แต่ซื้อเวลาเท่านั้นเพราะอันที่จริงพวกเขาเพิ่งมอบสัญญาสามปีให้กับ โซลชา เมื่อหกเดือนก่อนนี่เอง

    หากจะปลดแล้วเปลี่ยนผู้จัดการทีมกันใหม่ตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้ มันก็จะเหมือนเด็กเล่นขายของมากเกินไป

    ให้น่าเสียดายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เมิน อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตกุนซือ เชลซี ซึ่งมีดีกรีเหนือกว่า โซลชา หลายขีดขั้น

    เพราะหลังจากเอือมระอากับแผนการเล่นที่น่าง่วงประดุจยานอนหลับชั้นดีของ ฟาน กัล ซึ่งเน้นครองบอลท่าเดียว เรื่อยมาจนถึงตำราพิชัยสงครามฉบับ “รถบัส” ของ มูรินโญ่ แฟนผีจึงเรียกร้องอยากได้คนในหวนกลับมาคุมทัพ

    แล้วในที่สุด พวกเขาก็สมดังหวังเนื่องจาก โซลชา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งศิษย์รักของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

    แน่นอนว่างานวิวาห์รอบนี้มันช่างหวานชื่นซะเหลือเกิน เข้าทำนอง “ข้าวใหม่ปลามัน” นั่นเอง

    หากแต่ยามนี้ ช่วงเวลาของการ ฮันนีมูน ผ่านไปแล้ว โซลชา จึงเริ่มได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกรุมขับไล่จากสาวกปีศาจ

    หลังเกมกับทีม ปืนใหญ่ หาก โซลชา ยังรักษาเก้าอี้เอาไว้ได้ สองนัดต่อไปของเขาจะเป็นเกม ยูโรปาลีก บุกไปเยือน อาแซด และต่อด้วยเกมพรีเมียร์ลีกฟัดกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในแดนอีสาน

    กระทั่งวันที่ 20 ต.ค.มันน่าจะเป็นเกมที่สำคัญที่สุดในซีซั่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งก็คือการเปิดบ้านต้อนรับ ลิเวอร์พูล อริตลอดกาลในเกมแดงเดือด

    จากฟอร์มการเล่นเท่าที่เห็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแฟนผีมักน้อยแน่ และหวังแค่ว่าทีมรักแชร์แต้มกับ ลิเวอร์พูล ในรังได้ก็เป็นสุขใจแล้วเพราะอย่างน้อยมันก็เป็นการปัดแข้งปัดขา หงส์แดง ได้เล็กๆ

    ว่าแต่ว่า โซลชา จะอยู่คุมทีมได้จนถึงวันนั้นหรือเปล่า

    หรือจะตกเก้าอี้หลังจบเกมแดงเดือดซ้ำรอย มูรินโญ่ นายใหญ่คนก่อนก็ไม่รู้!!!