post

ผีข่มในบ้าน! แมนยูใช้ ‘เจมส์-กรีนวู้ด’ ซัด, อาร์เซน่อลลุ้น ‘โอบาเมย็อง’ โป้ง

Football-234

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหากองหน้าตัวหลักบาดเจ็บคาดว่าจะส่ง แดเนียล เจมส์ กับ เมสัน กรีนวู้ด ลงปิดสกอร์เกมรับแข้ง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่มี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ปิดสกอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันจันทร์ที่ 30 ก.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 และ ID Station, เวลา : 02.00 น.

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำทีมปีศาจแดงด้วยความกดดัน สัปดาห์ก่อนไปแพ้ เวสต์แฮม สบาย 0-2 อันดับเวลานี้หล่นมาอยู่ตารางท่อนล่างแล้ว

    สถานการณ์ของกุนซือนอร์วีเจี้ยนกดดันไม่น้อย แม้บอร์ดจะออกมาบอกว่ายังพร้อมสนับสนุนเต็มที่ก็ตาม

    กลางสัปดาห์เล่น คาราบาว คัพ รอบ 3 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอ 1-1 ซะงั้น ดีที่ยังชนะจุดโทษ 5-3 เข้าไปชนกับ เชลซี ที่ ลอนดอน ในรอบต่อไป

    สัปดาห์ก่อน มาร์คัส แรชฟอร์ด เจ็บเพิ่มมาอีกคน รวมกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ตัวรุกที่เจ็บไปก่อนแล้ว นั่นทำให้ เมสัน กรีนวู้ด เจ้าหนูวัย 17 ปีมีโอกาสออกสตาร์ตเป็นตัวจริงนัดแรกในซีซั่นนี้

    ปอล ป็อกบา ก็ทำท่าจะมีปัญหาเพราะอาการเจ็บที่ข้อเท้าในนัดที่เล่นกับ รอชเดช ซึ่ง โซลชา เกริ่นไว้แล้วว่าโอกาสจะลงเล่นได้นั้นมีไม่มาก

    ส่วน ลุค ชอว์ กลับมาซ้อมแล้วทว่าไม่น่าจะลงเล่นได้ ต้องรอฟื้นฟูไปอีกสักระยะ

    ในแนวรุกคงต้องพึ่งพา แดเนียล เจมส์ และ เมสัน กรีนวู้ด โดยรายหลังเพิ่งยิงประตูรอชเดลมาด้วย


    ด้าน อูไน เอเมอรี่ กุนซือ ไอ้ปืนใหญ่ พาทีมเข้าวินในสัปดาห์ก่อนด้วยการชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2 ทั้งที่เหลือ 10 ตัว

    ส่วนในศึกคาราบาว คัพ เดอะ กันเนอร์ส ที่มีตัวสำรองและดาวรุ่งเพียบก็ถล่ม ฟอเรสต์ ไป 5-0 ผ่านเข้ารอบ 4 ไปเจอกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป

    ทีมจะไม่มี อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ หัวหอกฝรั่งเศสต่อไปอีกเพราะเจ็บที่ข้อเท้า

    ขณะที่ ร็อบ โฮลดิ้ง, เอคตอร์ เบเยริน และ คีแรน เทียร์นี่ย์ ฟิตเต็มที่แล้วและพร้อมที่จะลงเล่นนัดแรกในซีซั่นนี้

    อย่างไรก็ตามด้านพวกตัวหลักในแดนหน้า อยู่กันครบเหมือนเดิม นิโกล่าส์ เปเป้, ดานี่ เซบายอส, เมซุต โอซิล และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

    ด้าน กรานิต ชาคา กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมถาวร

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

Football-235

    แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แอชลี่ย์ ยัง – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เนมานย่า มาติช – อันเดรียส เปเรยร่า, ฆวน มาต้า, แดเนียล เจมส์ – เมสัน กรีนวู้ด
    ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

Football-236

    อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ – เอคตอร์ เบเยริน, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ดาวิด ลุยซ์, คีแรน เทียร์นี่ย์ – มัตเตโอ เก็นดูซี่, กรานิต ชาคา – นิโกล่าส์ เปเป้, ดานี่ เซบายอส, เมซุต โอซิล – ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง
    ผู้จัดการทีม : อูไน เอเมอรี่

    ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์

 สถิติเพิ่มเติมที่น่าสนใจ    
– อาร์เซน่อล ไม่ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมลีกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 12 นัดหลัง
– อาร์เซน่อล ชนะแค่ 3 จาก 27 เกมพรีเมียร์ลีกที่โรงละครแห่งความฝัน ทั้งสามนัดเฉือน 1-0 โดยเจ้าถิ่นมี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ลงสนามทั้งหมด
– อาร์เซน่อล หวังคว้าชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ติดต่อกันในลีกครั้งแรกตั้งแต่ซีซั่น 2006-07
– แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 3 จาก 6 เกมลีกในบ้านหลังสุดเท่ากับที่เสียท่าจาก 52 นัดก่อนหน้ารวมกัน
– แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ทีมจากลอนดอนในบ้านติดต่อกันตั้งแต่เสียท่า เชลซี กับเวสต์แฮม เดือนธันวาคม 2001
– โซลชา พา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 14 เสมอ 6 แพ้ 7 เท่ากับ 27 นัดสุดท้ายยุค โชเซ่ มูรินโญ่
– ถ้าไม่ชนะนัดนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเก็บแต้มไม่ถึงสองหลักครั้งแรกตั้งแต่ซีซั่น 1989-90 ซึ่งจบอันดับ 13 ในฤดูกาลนั้น
– แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงในลีกมากกว่านัดละ 1 ประตูหนเดียวจาก 11 เกมหลังคือวันถล่ม เชลซี 4-0
– แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จุดโทษมากสุดซีซั่นนี้ (4) ขณะที่ อาร์เซน่อล เสียจุดโทษมากสุดเช่นกัน (3)
– อาร์เซน่อล เก็บคลีนชีตเพียงครั้งเดียวจาก 11 เกมลีกหลังสุด
– อาร์เซน่อล เสียอย่างน้อย 2 ประตูใน 4 เกมลีกหลังสุด หนหลังสุดที่ยิง 2 ประตูหรือมากกว่า 5 เกมลีกสูงสุดติดต่อกันคือสิงหาคม 1985
– ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ยิง 13 ประตูจาก 13 เกมลีกที่ลงเล่นตัวจริง
– ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง เท้าบอดและไม่มีกระทั่งแอสซิสต์ใน 8 เกมลีกที่ออกไปเยือนทีมกลุ่ม 6 อันดับแรก
– นิโกล่าส์ เปเป้ ยิงจุดโทษเข้า 10 ประตูนับตั้งแต่เริ่มซีซั่นทีแล้วเป็นสถิติดีสุด 5 ลีกใหญ่ยุโรป

ผลการพบกันที่ผ่านมา
วัน/เดือน/ปี รายการ         ผลการแข่งขัน

10/03/19    พรีเมียร์ลีก        อาร์เซน่อล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0
26/01/19    เอฟเอ คัพ        อาร์เซน่อล แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3     
06/12/18    พรีเมียร์ลีก        แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ อาร์เซน่อล 2-2     
29/04/18    พรีเมียร์ลีก        แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซน่อล 2-1
03/12/17    พรีเมียร์ลีก        อาร์เซน่อล แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด  1-3
07/05/17    พรีเมียร์ลีก      อาร์เซน่อล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0

ผลงาน 5 นัดหลัง
แมนฯ ยูไนเต็ด

25/09/19   เสมอ รอชเดล 1-1 (เหย้า) ลีก คัพ  
22/09/19    แพ้ เวสต์แฮม 0-2  (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19/09/19   ชนะ อัสตานา 1-0 (เหย้า) ยูโรปา ลีก  
14/09/19   ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
31/08/19    เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

อาร์เซน่อล
24/09/19   ชนะ ฟอเรสต์ 5-0  (เหย้า) ลีก คัพ  
22/09/19   ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
19/09/19   ชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 3-0 (เยือน) ยูโรปา ลีก
15/09/19   เสมอ วัตฟอร์ด 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
01/09/19    เสมอ สเปอร์ส 2-2  (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

post

แมนฯ ยูไนเต็ด vs อาร์เซน่อล : เกมสนุกที่แทบไม่เหลือมนต์ขลัง

Football-227

คำพูดของ รอย คีน อดีตกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พูดใส่ ปาทริค วิเอร่า อดีตกัปตันทีม อาร์เซน่อล ว่า “เดี๋ยวฉันจะไปเจอแกในสนาม”, การที่นักเตะ “ปีศาจแดง” ทำฟาวล์แบบไม่สมควรใส่นักเตะ “ไอ้ปืนใหญ่” หลายครั้งใน “ศึกแห่งบุฟเฟ่ต์”, การที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดนปาพิซซ่าใส่หลังจบเกม ฯลฯ คือตัวอย่างที่มักจะถูกพูดถึงกัน เมื่อพูดถึงเรื่องความดุเดือดเกี่ยวกับความเป็นคู่แข่งกันระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล

    เป็นเวลาหลายปีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล คือคู่อริที่มีความดุเดือดมากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ จนถึงขนาดที่ว่าทางสถานีโทรทัศน์เคยยอมเลื่อนเกมการแข่งขันจากเวลาบ่าย 3 โมง ที่ไม่ใช่ช่วงที่มีคนดูมากเท่าไหร่ ไปเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของสถานี เพื่อที่จะได้เพิ่มเรตติ้ง ขณะที่เกมนัดชิงชนะเลิศของ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 2004-05 ที่ อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายชนะในช่วงดวลจุดโทษนั้น มันก็มีคนชมเกมนี้ทั่วโลกถึงมากกว่า 480 ล้านคนด้วยกัน

Football-228

    นอกจากนี้ เกมลีกที่ทั้งคู่ลงเจอกันก็มักจะถูกมองว่าเป็นเกมที่มีความสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ลีกมากๆ จนทำให้นักเตะของทั้งสองทีมเตะกันเหมือนกะเอาให้อีกฝ่ายตาย และเหมือนจับดาบลงไปทำสงครามกัน จนทำให้เคยมีใบเหลืองใบแดงปลิวว่อนไปหมด

    น่าเศร้าที่ปัจจุบันความดุเดือดของการเป็นคู่อริกันระหว่างทั้งคู่หายไปเยอะ จริงอยู่ในด้านรูปเกมแล้วมันอาจจะยังทำให้แฟนบอลรู้สึกสนุกในระดับหนึ่ง เพราะหนสุดท้ายที่การเจอกันของทั้งคู่จบลงด้วยการเสมอกันแบบไร้สกอร์ในเกมแบบมีความหมายมันต้องย้อนไปถึงเกมลีกนัดที่เจ๊ากัน 0-0 ที่บ้านของ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2014 แต่ความดุเดือดของการแข่งขันก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม โดยในรอบ 10 เกมหลังสุดของการเจอกันในทุกรายการ มันมีคนโดนไล่ออกแค่คนเดียว นั่นคือ ปอล ป็อกบา ที่โดนใบแดงเมื่อปี 2017 แต่วันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังชนะไป 3-1

Football-229

    ทั้งนี้ หลายคนมองว่าสิ่งที่เป็นเหมือน “จุดจบ” ของความเป็นคู่อริกันของทั้งคู่คือการที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินว่า อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตยอดนายใหญ่ของ อาร์เซน่อล ไม่สามารถทำให้ทีมมีลุ้นแย่งแชมป์กับเขาได้อีกต่อไป แถมยังมีการมาถึงของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ตอนนั้นเป็นกุนซือหนุ่มสุดห้าวด้วย

    นอกจากนี้ ทั้งสองทีมยังทำการซื้อ-ขายนักเตะกันแบบเป็นมิตรในระดับหนึ่งในช่วงตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาอีกต่างหาก ไม่ว่าจะเป็น มิกาแอล ซิลแวสต์ ที่ย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไปซบ อาร์เซน่อล ในปี 2008, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่บอกลากรุงลอนดอนมาอยู่กับทีมสีแดงของเมืองแมนเชสเตอร์ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจของตัวเองในปี 2012, แดนนี่ เวลเบ็ค ที่เดินทางลงไปกรุงลอนดอนแทนในปี 2 ปีต่อมา และดีลย้ายสลับขั้วสุดฮือฮาระหว่าง อเล็กซิส ซานเชซ กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่สุดท้ายก็ล้มเหลวกับทีมใหม่ทั้งคู่ ทั้งที่ถ้าเป็นสมัยที่ยังเป็นคู่อริกันแล้วนั้น มันแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะเกิดการทำธุรกิจกันระหว่างทั้งสองทีม

Football-230

    สิ่งที่เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับความเป็นคู่อริกันของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ก็คือ เดิมพันจากการที่เคยขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กัน แทบจะเหลือเพียงการ “ชิงอันดับในกลุ่มบนของตารางคะแนน” กันเท่านั้น หลังจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาผลงานของทั้งสองทีมต่างก็ถือว่าน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ในอดีต จนแทบจะไม่มีนัดไหนเลยที่ตอนนั้นทั้งสองทีมอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์พร้อมๆ กัน อย่างดีที่สุดคือตอนนั้นมีเพียงทีมเดียวที่มีลุ้นแชมป์

    อาร์เซน่อล ถูกหลายคนปรามาสว่าหลุดจากกลุ่มลุ้นแชมป์มานานแม้กระทั่งตั้งแต่ตอนที่ เวนเกอร์ ยังอยู่ในตำแหน่งแล้ว โดยแชมป์ลีกครั้งล่าสุดของพวกเขาต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 2003-04 และแม้ว่าในซีซั่นต่อมาพวกเขาจะเป็นรองแชมป์ แต่ก็มีแต้มน้อยกว่า เชลซี ที่เป็นแชมป์ถึง 8 แต้ม นอกจากนี้ ถ้านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาร์เซน่อล ก็เป็นรองแชมป์อีกเพียงแค่ครั้งเดียว นั่นคือซีซั่น 2015-16 แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าอวดเท่าไหร่ เพราะพวกเขาแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ ถึง 10 คะแนน

Football-231

    ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อย่างที่รู้กันดีว่าล้มเหลวอย่างหนักนับตั้งแต่หมดยุคของ เฟอร์กูสัน ถึงแม้จะมีแชมป์บอลถ้วยอยู่บ้าง แต่ในลีกก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะคว้าแชมป์สมัยที่ 21 มาครองได้ โดยหลังจากที่ เฟอร์กูสัน วางมือจากการคุมทีมไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2013 “ปีศาจแดง” ก็ติดท็อปโฟร์เพียงแค่ 2 ครั้ง และแม้จะเป็นรองแชมป์ลีก 1 หน ในฤดูกาล 2017-18 แต่มันก็ไม่ได้น่าภูมิใจเหมือนกัน เพราะพวกเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 19 คะแนน

    แน่นอน เกมในวันจันทร์นี้มีโอกาสที่รูปเกมในสนามจะน่าตื่นตาตื่นใจ อย่างเช่น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีดาวรุ่งฟอร์มฮอตอย่าง แดเนี่ยล เจมส์ หรือ อาร์เซน่อล ที่มีกองหน้าชั้นยอดอย่าง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง แต่ในเรื่องการเตะกันแบบเหมือนกับว่าสนามบอลเป็นเหมือนสนามรบคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะดีกรีความเป็นคู่แข่งกันมันเบาลงไปเยอะ

Football-232

    และเกมในวันจันทร์นี้ก็จะเป็นอีก 1 นัดที่การเจอกันระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล เป็นเพียงการสู้กันเพื่อ “ชิงอันดับที่ดี” ไม่ใช่การลุ้นแชมป์เหมือนในอดีต ซึ่งมันก็ทำท่าว่าจะเป็นอย่างนี้ไปอีกพักหนึ่งด้วย

Football-233

เกร็ดที่น่าสนใจ
    – การเจอกันครั้งแรกในเกมแบบเป็นทางการ – ดิวิชั่น 2 วันที่ 13 ตุลาคม 1894 โดยที่ นิวตัน ฮีธ (ชื่อเดิมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ วูลวิช อาร์เซน่อล 3-3
    – เกมที่ยิงกันเยอะที่สุด – แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซน่อล 8-2 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2011
    – ครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล บุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อนับรวมทุกรายการ – เกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2014-15 อาร์เซน่อล ชนะ 2-1
    – ครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล บุกไปชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมลีก – ปี 2006 อาร์เซน่อล ชนะ 1-0

post

อย่างเกรียน !! อเดบายอร์ โพสต์ภาพวิ่งดีใจเย้ยแฟนอาร์เซน่อล ก่อนตอบคอมเมนต์สุดกวน

Football-88

        เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ศูนย์หน้าชาวโตโก โพสต์ภาพฉลองประตูสุดดราม่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังทำประตูใส่อาร์เซนอล ทีมเก่าของเขาได้ ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  ก่อนไล่ตอบคอมเมนต์แฟนบอลแบบสุดกวน จากการรายงานของ Metro สื่อชื่อดังต่างประเทศ

        เหตุการณ์วิ่งดีใจแบบ 4×100 ของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เกิดขึ้นในปี 2009 ขณะนั้นศูนย์หน้าชาวโตโก ย้ายจาก อาร์เซนอล มาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ การย้ายทีมในครั้งนั้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนทีมปืนใหญ่อยู่พอสมควร และเมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองทีมต้องมาพบกัน

        แฟน ๆ อาร์เซนอล ต่างให้การต้อนรับ อเดบายอร์ อย่างดุเดือดตั้งแต่เริ่มเกม จนมาถึงนาทีที่ 80 อดีตกองหน้าปืนโตโขกพังประตูทีมเก่าได้สำเร็จ ทันใดนั้นเจ้าตัววิ่งแบบไม่คิดชีวิตเพื่อไปแสดงความดีใจต่อหน้ากองเชียร์ของอาร์เซนอล ก่อนจะได้รับใบเหลืองในที่สุดฐานยั่วยุแฟนบอล