post

หมีรอดตาย! “เอร์เรรา”โขกท้ายเกมพาแอต.มาดริดตีเจ๊ายูเวนตุสประเดิม แชมเปียนส์ลีก

Football-187

เมาริซิโอ ซาร์รี่ นายใหญ่ ”ม้าลาย” ยูเวนตุส เกือบคว้า 3 แต้มแต่มาโดนทีเด็ดช่วยท้ายบุกเจ๊า ”ตราหมี” แอต.มาดริด 2-2 โดยทีมเยือนออกนำไปก่อนสองสกอร์ แต่มาโดนทีเด็ดของ เฮคเตอร์ เอร์เรรา โขกนาทีที่ 90 ช่วยเจ้าถิ่นไว้ได้ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี) คืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่

    ”ตราหมี” พุ่งชนความพ่ายแพ้เป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ หลังจากที่โดนเรอัล โซเซียดาด เชือด 2-0 ในเกมลา ลีกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เทรนเนอร์ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ได้รับข่าวดีหลังจากที่ แยน โอบลัค นายทวารคนเก่งของทีมที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในเกมก่อน หายเดี้ยงกลับมาซ้อมได้แล้ว และไม่น่ามีปัญหาในการลงเฝ้าเสา

     ฟาก ”ม้าลาย” เสียตำแหน่งจ่าฝูงกัลโช่ เซเรีย อา ให้กับอินเตอร์ มิลาน หลังจากที่ทำได้เพียงเสมอกับฟิออเรนตินา แบบไม่มีสกอร์ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไม่ได้ใส่ชื่อของ มาริโอ มานด์ซูคิช และ เอ็มเร่ ชาน ในขุมกำลังสู้ศึกรายการนี้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไร เพราะมีทางเลือกเยอะ

    เปิดฉากครึ่งแรกมากลายเป็น ทัพหมีที่ได้ลุ้นก่อนเลย นาที 10 ดีเอโก้ คอสต้า ไหลบอลต่อให้ ชูเอา เฟลิกซ์ กดด้วยขวาบอลพุ่งไปติดเซฟเชสนี่ออกหลัง

    ถัดมาอีก 3 นาที แอต.มาดริดได้ลุ้นอีก หลัง คีแรน ทริปเปียร์ ครอสบอลมาให้ เฟลิกซ์ ขึ้นโขกแต่บอลยังไม่ผ่านนายด่านม้าลาย

    ลูกทีมของ ซาร์รี่ แทบไม่ได้โงหัวตอบโต้เลย นาที 16 เรนาน โลดี้ เติมมาหวดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งแรงจนเชสนี่ได้ออกแรงเซฟอีก อีกนาทีต่อมา โฆเซ่ คิมิเนซ ได้โขกกลางประตูอีกแต่บอลยังไปเข้ามือของเชสนี่

    เหลือ 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกลูกทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังหาจังหวะจบสกอร์ได้ค่อนข้างน้อย ขณะที่ ”ตราหมี” ดูดีกว่าเกือบได้ประตูขึ้นนำหลายครั้ง

    นาทีที่ 40 ”ม้าลาย” ได้เสียวบ้างจากจังหวะครอสหน้าเขตโทษของ ฮวน กวาดราโด้ บอลโค้งเลยไปเสาสองเข้าหัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งคนเดียว แต่ไปตรงตัว ยาน โอบลัค

    หมดครึ่งเวลาแรก แอต.มาดริด 0 ยูเวนตุส 0
    
    แต่แล้วเริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที ”ม้าลาย” มาได้ประตูออกนำจากจังหวะสวนกลับเร็วบอลทิ้งยาวมาถึง กอนซาโล่ อิกวาอิน ลากเข้าเขตโทษก่อนปาดออกให้ ฮวน กวาดราโด้ แต่งเข้าซ้ายตะบันเต็มแรงพุ่งเสียบสามเหลี่ยมงดงาม แอต.มาดริด 0 ยูเวนตุส 1
    
    นาทีที่  60 ”ตราหมี” ได้ลุ้นอีกครั้งจาก โฮเซ่ คิเมเนซ แต่ก็ยังข้ามคานออกไปก่อน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ขยับแก้เกมส่ง อังเคล คอร์เรอา ลงสนามแทน โตมาส์ เลอมาร์ ที่มีส่วนร่วมกับเกมน้อยมาก

    ต่อมานาทีที่ 65 ”ม้าลาย” มาบวกสกอร์เพิ่มจากจังหวะพาบอลควบขึ้นมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อนแทงให้ อเล็กซ์ ซานโดร สอดขึ้นมาหยอดด้วยซ้ายบอลลอยไปเข้าหัว แบลส มาตุยดี้ ขึ้นโขกโล่งๆแสกหน้า ยาน โอบลัค แอต.มาดริด 0 ยูเวนตุส 2

    แต่แล้วนาทีที่ 70 ”ตราหมี” มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะฟรีคิกกลางสนามของ โกเก้ เปิดยาวมาเสาสองให้ โฮเซ่ คิเมเนซ โขกชงเข้ากลางประตูและเป็น สเตฟาน ซาวิช ตามโหม่งซ้ำไม่มีเหลือ แอต.มาดริด 1 ยูเวนตุส 2
    
    ต่อมาอีก 3 นาที ทีมเยืนเกือบได้ประตูหนีห่างอีกครั้งจากจังหวะยิงของ กอนซาโล่ อิกวาอิน แต่ไปติดเซฟ ยาน โอบลัค ปัดออกมาเข้าทาง แบลส มาตุยดี้ ตามซ้ำก็ยังไปติดเท้า คีแรน ทริปเปียร์ ที่ยืนคุมเส้นช่วยทีมเอาไว้ได้

    ก่อนหมดเวลา 10 นาที เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะยิงไกลของ บิโตโล่ ที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรองแต่ยังไม่ผ่านมือ วอยเชียค เชสนี่ ช่วยเอาไว้ได้อีกครั้ง

    ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 เจ้าถิ่นมาตีเสมอสำเร็จจาก ลูกเตะมุมของ คีแรน ทริปเปียร์ ครอสเข้าหัว เฮคเตอร์ เอร์เรรา สอดมาโขกผ่านมือ วอยเชียค เชสนี่ เสียบเสาเข้าไป 

    จบเกม แอต.มาดริด 2 ยูเวนตุส 2

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

    แอต.มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค – คีแรน ทริปเปียร์, สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ คิเมเนซ, เรนาน โลดี้ – โกเก้, ซาอูล ญีเกซ, โทมัส ปาเตย์, โตมาส์ เลอมาร์ – ชูเอา เฟลิกซ์, ดีเอโก้ คอสต้า

    เทรนเนอร์ : ดีเอโก้ ซิเมโอเน่

     ยูเวนตุส (4-3-3) : วอยเชียค เชสนี่ – ดานิโล่, มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเล็กซ์ ซานโดร – ฮวน กวาดราโด้, ซามี่ เคดิร่า, มิราเล็ม ปานิช, แบลส มาตุยดี้ – กอนซาโล่ อิกวาอิน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

    เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ ซาร์รี่

ผู้ตัดสิน : แดนนี่ มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)

post

ดิมาเรียเบิ้ลทีมเก่า! ปารีสฯสอนเชิงเรอัลมาดริดเปิดหัวศึกแชมเปียนส์ลีก

Football-186

อังเคล ดิ มาเรีย ดาวเตะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังคงเป็นตัวแสบเช่นเดิมหลังซัดสองเม็ดใส่ทีมเก่า “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ไปได้ 3-0 นำแชมป์ลีกเอิงคว้าสามแต้มประเดิมชัย ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรก คืนวันพุธที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

     ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรก คืนวันพุธที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา “เปแอสเช” ยักษ์ใหญ่แดนน้ำหอม เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ขาดดาวเตะอย่าง “เนย์มาร์” ที่ติดถูกแบนจากซีซั่นก่อน แถมไร้ชื่อ “คาวานี่-เอ็มบั๊ปเป้” ที่ยังบาดเจ็บอยู่ มีหัวหอกป้ายแดง เมาโร อีการ์ดี้ ประเดิมสนามเกมชปล.ให้ทีม ขณะที่ ซีเนดีน ซีดาน นายใหญ่ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์รายการนี้ 13 สมัยส่งผู้เล่นตัวหลักลงครบ แนวรุกมี “อาซาร์-เบล” ช่วยหนุนเกมบุก คาริม เบนเซม่า หมายชัยชนะเปิดหัวบอลยุโรป

     เริ่มครึ่งแรกถึงนาทีที่ 14 ฆวน เบร์นาต เติมเกมบุกขึ้นมาจ่ายบอลให้ เมาโร อีการ์ดี้ ดีดทำชิ่งก่อนปาดมาในกรอบเขตโทษ และเป็น อังเคล ดิ มาเรีย วิ่งเข้ามาจิ้มด้วยเท้าซ้ายบอลเสียบเสาแรกเข้าไป เปแอสเช นำก่อน 1-0

     ถัดมาอีกเพียงสองนาที เอแด็น อาซาร์ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม ก่อนลองซัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ บอลตรงเข้าประตูแต่ทว่า เกย์ลอร์ นาวาส นายด่านเจ้าถิ่นโชว์พุ่งตัวเซฟไว้ได้

     ต่อมานาทีที่ 34 เจ้าถิ่นเฮลั่น โธมัส มูนิเย่ร์ ทุ่มบอลให้ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ เลี้ยงบอลแหวกผู้เล่นราชันชุดขาว ก่อนตบให้ อังเคล ดิ มาเรีย ที่ยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษ วางเท้าปั่นบอลผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารทีมเยือน เข้าไปเป็นลูกที่สองของเจ้าตัวเกมนี้ เปแอสเชทิ้งเป็น 2-0

     ราชันชุดขาวชวดตีไล่มา แกเร็ธ เบล ซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษบอลย้อยเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทว่ากรรมการขอดูวีเออาร์เนื่องจากผู้เล่นเปแอสเชประท้วงเป็นลูกแฮนด์บอลและยืนยันว่าบอลโดนมือจริง เรอัล มาดริด โดนริบสกอร์ไปในนาทีที่ 35 จบ 45 นาทีแรก ปารีสฯ ขึ้นนำ 2-0

     เริ่มครึ่งหลังผ่านถึงนาทีที่ 60 อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเข้าในกรอบเขตโทษ ใช้เท้ากระดกบอลหวังให้ข้ามตัวผู้รักษาประตูคู่แข่งแต่บอลกลับลอยโด่งเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

     นาทีถัดมาเจ้าถิ่นเปิดเกมต่อ ฆวน เบร์นาต รับบอลจากเพื่อนริมกรอบเขตโทษ ไหลต่อให้ อังเคล ดิ มาเรีย จับบอลแบบไขว้เท้าแล้วจ่ายให้ ปาโบล ซาราเบีย ที่โฉบตัดหน้าแนวรับเรอัล มาดริด ยิงเสาแรกแต่บอลออกข้างเสาไปแบบมีลุ้น

     ราชันชุดขาวอดได้สกอร์อีกหนนาทีที่ 77 คาริม เบนเซม่า ได้ซัดเต็มข้อริมเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไป แต่ว่ากลับมีผู้เล่นเรอัล มาดริด ยืนล้ำหน้าก่อนบอลกระดอนมาหาดาวยิงชาวฝรั่งเศส อีกสองนาทีต่อมา คาริม เบนเซม่า ยืนโหม่งบอลจากการครอสของเพื่อนร่วมทีมที่เสาสอง ทว่าบอลยังคงเฉียดเสาออกหลังอีกคราช่วงนาทีที่ 79 

     ช่วงทดเจ็บเจ้าถิ่นยิงปิดแมตช์ โธมัส มูนิเย่ร์ ฟูลแบ็กเจ้าถิ่นแย่งบอลจากผู้เล่นราชันชุดขาว ก่อนลากตะลุยขึ้นหน้าจ่ายให้ อังเคล ดิ มาเรีย ตวัดบอลกลับคืนไปที่เจ้าตัวหลุดเดี่ยวไปทางริมสนามด้านขวา ก่อนตบบอลให้ ฆวน เบร์นาต ที่ยืนโล่งอยู่อีกฝั่งของกรอบเขตโทษ ไหลคืนกลับมาให้ โธมัส มูนิเย่ร์ ยิงเข้าไป จบเกม เปแอสเช ชนะ เรอัล มาดริด 3-0 คว้าสามแต้มประเดิมศึกชปล.รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (4-3-3):เกย์ลอร์ นาวาส,โธมัส มูนิเย่ร์,ติอาโก้ ซิลวา,เพรสแนล คิมเพมเบ้,ฆวน เบร์นาต,มาร์กินญอส (อันเดร์ เอร์เรร่า น.70),อิดริสซ่า กาน่า เกย์,มาร์โก แวร์รัตติ,ปาโบล ซาราเบีย (อับดู ดิอาโล น.89),อังเคล ดิ มาเรีย,เมาโร อีการ์ดี้ (มักซิม ชูโป-โมติง น.60)

เรอัล มาดริด (4-3-3):ติโบต์ กูร์กตัวส์,ดานี่ การ์บาฆาล,เอแดร์ มิลิเตา,ราฟาแอล วาราน,แฟร์กล็องด์ เมนดี้,โทนี่ โครส,คาเซมีโร่,ฮาเมส โรดริเกซ (ลูก้า โยวิช น.70),เอแด็น อาซาร์ (ลูกัส บาสเกซ น.70),แกเร็ธ เบล (วิเนซิอุส จูเนียร์ น.79),คาริม เบนเซม่า

post

ไก่ชวดชัย! เคนกดโทษ-สเปอร์สนำ2เม็ดไม่เฮ กอสฮึดไล่เจ๊าเปิดหัว แชมเปียนส์ลีก

Football-185

“ไก่เดือยทอง” รองแชมป์ฯรายการนี้เมื่อซีซั่นที่แล้ว แม้จะขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 แต่ไม่สามารถรักษาสกอร์ได้สำเร็จ เมื่อเจอลูกฮึดของเจ้าถิ่น โอลิมเปียกอส รัวสองเม็ดไล่ตีเสมอ 2-2 จบด้วยการแบ่งแต้มกันไป ในเกมเปิดสนามนัดแรก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี เมื่อคืนวันพุธที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

สนาม : สตาดิโอ จอร์กอส คาราอิสกากิส

    เริ่มเกมตอนแรกดูสูสีจนกระทั่งนาที 26 ไก่เดือยทองขึ้นนำจากจังหวะไม่น่ามีอะไร ยัสซีน เมรีอาห์ ไปแหย่เท้าสกัด แฮร์รี่ เคน ล้มลงในเขตโทษ แล้วสัญญาณ วีเออาร์ เด้งเตือน ก่อนที่กรรมการเปลี่ยนคำตัดสิน และเป็น เคน ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาดขึ้นนำ 1-0

    นาที 30 สกอร์ไหลเป็นสอง เบน เดวิส แย่งบอลได้แล้วจ่ายให้ ลูกัส มูร่า ตะบันหน้าเขตโทษเสียบก้นตาข่ายอย่าวสวยงาม คลับไก่นำห่าง 2-0

    แต่ก่อนหมดเวลานาทีเดียว โอลิมเปียกอสตีไข่แตกได้จาก ดาเนียล โปเดนซ์ เล่นชิงเข้าไปยิงเรียดเสียบเสาไกลเป็นการแก้ตัวที่เสียบอลจนโดนยิงเม็ดสอง และพักครึ่งไปด้วยสกอร์สเปอร์สนำ 2-1

    ต่อครึ่งหลังนาที 54 เจ้าถิ่นบุกครั้งแรกได้เรื่องเลยเมื่อ มาติเยอ วัลบูเอน่า เรียกฟาวล์ได้จากจังหวะโดน ยาน แฟร์ทองเก้น ทำฟาวล์ ก่อนที่ดาวเตะร่างเล็กเลือดน้ำหอมสังหารเองไม่พลาดไล่ตีเสมอ 2-2

    นาที 66 ไก่เดือยทองพลาดได้ลูกสาม เดเล่ อัลลี ได้กดเรียดติดเซฟ โชเซ่ ซา ออกหลัง จากเตะมุม เคน ได้โขกก็โด่งข้ามคาน

    เวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทยอยกันเปลี่ยนตัวแก้เกมแต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมสเปอร์สบุกเสมอ 2-2 แบบน่าเสียดายนิดๆ หลังนำห่างไปก่อน 2 เม็ด

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    โอลิมเปียกอส : โชเซ่ ซา – โอมาร์ เอลับเดลเลา, รูเบน เซเมโด้, ยัสซีน เมรีอาห์, คอสตาส ซิมิกัส – กิลเญร์เม่, อันเดรียส บูชาลากิส – จอร์กอส มาซูราส, มาติเยอ วัลบูเอน่า, ดาเนียล โปเดนซ์, มิเกล อังเคล เกร์เรโร่

    สเปอร์ส : อูโก้ โยริส – ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ยาน แฟร์ทองเก้น, เบน เดวิส – แฮร์รี่ วิงค์ส, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ – ลูกัส มูร่า, คริสเตียน เอริคเซ่น, เดเล่ อัลลี – แฮร์รี่ เคน

    ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)