post

ดิมาเรียเบิ้ลทีมเก่า! ปารีสฯสอนเชิงเรอัลมาดริดเปิดหัวศึกแชมเปียนส์ลีก

Football-186

อังเคล ดิ มาเรีย ดาวเตะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยังคงเป็นตัวแสบเช่นเดิมหลังซัดสองเม็ดใส่ทีมเก่า “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ไปได้ 3-0 นำแชมป์ลีกเอิงคว้าสามแต้มประเดิมชัย ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรก คืนวันพุธที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

     ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดแรก คืนวันพุธที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา “เปแอสเช” ยักษ์ใหญ่แดนน้ำหอม เกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ขาดดาวเตะอย่าง “เนย์มาร์” ที่ติดถูกแบนจากซีซั่นก่อน แถมไร้ชื่อ “คาวานี่-เอ็มบั๊ปเป้” ที่ยังบาดเจ็บอยู่ มีหัวหอกป้ายแดง เมาโร อีการ์ดี้ ประเดิมสนามเกมชปล.ให้ทีม ขณะที่ ซีเนดีน ซีดาน นายใหญ่ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์รายการนี้ 13 สมัยส่งผู้เล่นตัวหลักลงครบ แนวรุกมี “อาซาร์-เบล” ช่วยหนุนเกมบุก คาริม เบนเซม่า หมายชัยชนะเปิดหัวบอลยุโรป

     เริ่มครึ่งแรกถึงนาทีที่ 14 ฆวน เบร์นาต เติมเกมบุกขึ้นมาจ่ายบอลให้ เมาโร อีการ์ดี้ ดีดทำชิ่งก่อนปาดมาในกรอบเขตโทษ และเป็น อังเคล ดิ มาเรีย วิ่งเข้ามาจิ้มด้วยเท้าซ้ายบอลเสียบเสาแรกเข้าไป เปแอสเช นำก่อน 1-0

     ถัดมาอีกเพียงสองนาที เอแด็น อาซาร์ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม ก่อนลองซัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ บอลตรงเข้าประตูแต่ทว่า เกย์ลอร์ นาวาส นายด่านเจ้าถิ่นโชว์พุ่งตัวเซฟไว้ได้

     ต่อมานาทีที่ 34 เจ้าถิ่นเฮลั่น โธมัส มูนิเย่ร์ ทุ่มบอลให้ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ เลี้ยงบอลแหวกผู้เล่นราชันชุดขาว ก่อนตบให้ อังเคล ดิ มาเรีย ที่ยืนอยู่หน้ากรอบเขตโทษ วางเท้าปั่นบอลผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารทีมเยือน เข้าไปเป็นลูกที่สองของเจ้าตัวเกมนี้ เปแอสเชทิ้งเป็น 2-0

     ราชันชุดขาวชวดตีไล่มา แกเร็ธ เบล ซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษบอลย้อยเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทว่ากรรมการขอดูวีเออาร์เนื่องจากผู้เล่นเปแอสเชประท้วงเป็นลูกแฮนด์บอลและยืนยันว่าบอลโดนมือจริง เรอัล มาดริด โดนริบสกอร์ไปในนาทีที่ 35 จบ 45 นาทีแรก ปารีสฯ ขึ้นนำ 2-0

     เริ่มครึ่งหลังผ่านถึงนาทีที่ 60 อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเข้าในกรอบเขตโทษ ใช้เท้ากระดกบอลหวังให้ข้ามตัวผู้รักษาประตูคู่แข่งแต่บอลกลับลอยโด่งเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

     นาทีถัดมาเจ้าถิ่นเปิดเกมต่อ ฆวน เบร์นาต รับบอลจากเพื่อนริมกรอบเขตโทษ ไหลต่อให้ อังเคล ดิ มาเรีย จับบอลแบบไขว้เท้าแล้วจ่ายให้ ปาโบล ซาราเบีย ที่โฉบตัดหน้าแนวรับเรอัล มาดริด ยิงเสาแรกแต่บอลออกข้างเสาไปแบบมีลุ้น

     ราชันชุดขาวอดได้สกอร์อีกหนนาทีที่ 77 คาริม เบนเซม่า ได้ซัดเต็มข้อริมเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไป แต่ว่ากลับมีผู้เล่นเรอัล มาดริด ยืนล้ำหน้าก่อนบอลกระดอนมาหาดาวยิงชาวฝรั่งเศส อีกสองนาทีต่อมา คาริม เบนเซม่า ยืนโหม่งบอลจากการครอสของเพื่อนร่วมทีมที่เสาสอง ทว่าบอลยังคงเฉียดเสาออกหลังอีกคราช่วงนาทีที่ 79 

     ช่วงทดเจ็บเจ้าถิ่นยิงปิดแมตช์ โธมัส มูนิเย่ร์ ฟูลแบ็กเจ้าถิ่นแย่งบอลจากผู้เล่นราชันชุดขาว ก่อนลากตะลุยขึ้นหน้าจ่ายให้ อังเคล ดิ มาเรีย ตวัดบอลกลับคืนไปที่เจ้าตัวหลุดเดี่ยวไปทางริมสนามด้านขวา ก่อนตบบอลให้ ฆวน เบร์นาต ที่ยืนโล่งอยู่อีกฝั่งของกรอบเขตโทษ ไหลคืนกลับมาให้ โธมัส มูนิเย่ร์ ยิงเข้าไป จบเกม เปแอสเช ชนะ เรอัล มาดริด 3-0 คว้าสามแต้มประเดิมศึกชปล.รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (4-3-3):เกย์ลอร์ นาวาส,โธมัส มูนิเย่ร์,ติอาโก้ ซิลวา,เพรสแนล คิมเพมเบ้,ฆวน เบร์นาต,มาร์กินญอส (อันเดร์ เอร์เรร่า น.70),อิดริสซ่า กาน่า เกย์,มาร์โก แวร์รัตติ,ปาโบล ซาราเบีย (อับดู ดิอาโล น.89),อังเคล ดิ มาเรีย,เมาโร อีการ์ดี้ (มักซิม ชูโป-โมติง น.60)

เรอัล มาดริด (4-3-3):ติโบต์ กูร์กตัวส์,ดานี่ การ์บาฆาล,เอแดร์ มิลิเตา,ราฟาแอล วาราน,แฟร์กล็องด์ เมนดี้,โทนี่ โครส,คาเซมีโร่,ฮาเมส โรดริเกซ (ลูก้า โยวิช น.70),เอแด็น อาซาร์ (ลูกัส บาสเกซ น.70),แกเร็ธ เบล (วิเนซิอุส จูเนียร์ น.79),คาริม เบนเซม่า