post

“อัยยวัฒน์” บินมาดูเกม “เลสเตอร์-ฟอเรสต์” ชี้ชะตา “ร็อดเจอร์ส” เกมนี้ไม่ชนะ อาจโดนปลด

ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ชาวไทย เตรียมบินด่วนมาชมศึกพรีเมียร์ลีก หนที่ 2 ในฤดูกาลนี้ คาดตัดสินอนาคตกุนซือหลังจบเกม

เทเลกราฟ สื่อดังเมืองผู้ดีเผยว่า อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ชาวไทย เตรียมนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาชมเกมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นครั้งที่ 2 ในฤดูกาลนี้ เกมที่จะเปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม ต้อนรับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คืนวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ แข่งขัน 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

สาเหตุเนื่องจาก “จิ้งจอกสยาม” ภายใต้การคุมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ ยังไม่ชนะใครตลอด 7 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยเสมอเพียง 1 เกม และแพ้ไปถึง 6 ครั้ง มีแค่ 1 คะแนน รั้งอันดับสุดท้าย ซึ่งเกมมันเดย์ไนต์ที่จะพบกับ “เจ้าป่า” ทีมรองบ๊วย อันดับ 19 ที่มี 4 คะแนน อาจเป็นเกมตัดสินอนาคตของอดีตกุนซือลิเวอร์พูลรายนี้ก็เป็นได้

ก่อนหน้านี้ “บิ๊กต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เคยเดินทางมาชม เลสเตอร์ ติดขอบสนามในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 3 ของฤดูกาล ซึ่งแพ้คาบ้านให้กับ เซาแธมป์ตัน 1-2 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ทำให้การบินมาดูเกมครั้งที่ 2 ในวันจันทร์นี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ ร็อดเจอร์ส และนักเตะ “จิ้งจอกสยาม” เรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาให้ได้โดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญภายในสโมสร

ฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ เพิ่งเสริมทัพเพียง 2 ราย คือ เวาท์ ฟาส กองหลังทีมชาติเบลเยียมที่ซื้อมาจาก แร็งส์ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (622.5 ล้านบาท) และ อเล็กซ์ สมิธีส์ ผู้รักษาประตูที่คว้าตัวมาแบบฟรีๆ หลังหมดสัญญาจาก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แต่ปล่อยผู้เล่นตัวหลักออกไปทั้ง แคสเปอร์ ชไมเคิล และ เวสลีย์ โฟฟานา ซึ่งมีผลทำให้ผลงานในสนามย่ำแย่ลง จนเก้าอี้กุนซือของ ร็อดเจอร์ส เริ่มสั่นคลอน แม้จะเคยพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และแชมป์คอมมูนิตี ชิลด์ เมื่อปี 2021 ก็ตาม

post

กุนซือเลสเตอร์ ขอระบายหลังโดน ลิเวอร์พูล บุกถล่มคาบ้าน

Football-294

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดใจหลังพาทีมแพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้านแบบเละเทะ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุด

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่แข็งแกร่งสุดๆ หลังบุกมาเอาชนะทีมของตนถึงสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม 4-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

จากผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 52 คะแนน ทิ้งห่าง เลสเตอร์ ที่มี 39 คะแนนเท่าเดิม ไปเป็น 13 คะแนนแล้ว

ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า “เราไม่ได้ลงเล่นอย่างมีคุณภาพมากพอ และเราก็เสียบอลกันง่ายเกินไปโดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรก เมื่อคุณทำแบบนั้นในการเจแกับทีมที่ดี คุณก็ต้องเจอกับความกดดัน แต่ตอนที่สกอร์ 1-0 เรายังอยู่ในเกมนะ จากนั้นเราเริ่มสร้างโมเมนตัมให้กับตัวเองแต่เราก็ดันมาเสียจุดโทษ แล้วจากนั้นก็เลยเป็นเรื่องยากสำหรับเรา พวกเขามีพละกำลังและความแข็งแกร่ง และตอนนี้สิ่งสำคัญมากคือเรื่องความมั่นใจของพวกเขา หลังจากได้แชมป์แชมเปียนส์ลีก, แชมป์สโมสรโลก และ ซุปเปอร์คัพ ทำให้พวกเขารู้สึกแบบนั้น และพวกเขาก็มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมาก คงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะออกอาการแกว่งในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล พวกเขาคือทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเขามีนักเตะที่ดีพอ มีประสบการณ์มากพอ และมีคุณภาพเพียงพอที่จะโฟกัสกับการทำงานให้สำเร็จ มันยากมากที่จะหยุดพวกเขา”

post

“เลสเตอร์” บุกถล่ม “วิลลา” 4-1 ตามล่าลิเวอร์พูล สรุปผลพรีเมียร์ลีก

Football-291

“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรง บุกมาถล่ม แอสตัน วิลลา ขาดลอย เดินหน้าไล่ล่าลิเวอร์พูลต่อไป ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ประจำวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค. คู่ที่น่าสนใจ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลลา เปิดสนามวิลลา พาร์ค รับการมาเยือนของรองจ่าฝูง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 20 เลสเตอร์ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก เจมี วาร์ดี จากนั้นนาทีที่ 41 เลสเตอร์ หนีเป็น 2-0 จาก เคเลชี อิเฮียนาโช

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก วิลลา ไล่มาเป็น 1-2 จาก แจ็ค กรีลิช ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เลสเตอร์ หนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะได้เตะมุม เจมส์ แมดดิสัน เปิดบอลเข้าเขตโทษ จอนนี อีแวนส์ โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย

ถึงนาทีที่ 75 เลสเตอร์ หนีไปไกลเป็น 4-1 จาก เจมี วาร์ดี และถือเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะ แอสตัน วิลลา 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 38 คะแนน รั้งรองจ่าฝูง ตามหลังลิเวอร์พูล 8 คะแนน พร้อมทำสถิติเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก 8 นัดติดต่อกัน

post

จิ้งจอกสยามยำสยอง!ตัดเกรดแข้งเลสเตอร์เกมกระซวกโหดเซาธ์ฯ

Football-274

เป็นสกอร์ที่มโหฬารชวนตะลึงดีแท้สำหรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปยำใหญ่ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ต้นเกม ถึงบ้านแบบไม่มีเกรงใจ

ด้วยสกอร์ 9-0 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยที่เกมนี้ เลสเตอร์ มีผู้เล่นถึงสองคนที่กดแฮตทริกได้ ขณะที่แบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ ก็วิ่งเติมเกมรุกอย่างเมามันส์ และนี่คือผลสอบของลูกทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในเกมสุดโหดเมื่อคืนที่ผ่านมา

 11 ผู้เล่นตัวจริง

    – แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล : 7
        แม้เป็นเกมที่ เลสเตอร์ บุกยำอยู่ข้างเดียว แต่ ชไมเคิ่ล ก็มีโชว์เซฟสวยๆ ให้เห็น 2 ครั้ง

    – เบน ชิลเวลล์ : 9
        เป็นเกมที่เล่นได้โดดเด่นมาก เติมเกมรุกได้มีประสิทธิภาพสุดๆ โดยนอกจากเป็นคนทำประตูขึ้นนำ 1-0 แล้ว ยังทำแอสซิสต์สวยๆ ได้อีก 2 ครั้ง
    
    – ชัคลาร์ โซยุนชู : 7.5
        คุมแนวรับได้ยอดเยี่ยม โดดเด่นทั้งลูกกลางอากาศและการเข้าแท็กเกิ้ล

    – จอนนี่ อีแวนส์ : 7
        ไม่ได้เจองานหนักอะไรมาก แถมเกือบมีชื่อเป็นคนทำสกอร์ในช่วงครึ่งหลังด้วย

    – ริคาร์โด้ เปเรยร่า : 7.5
        อาจจะเติมเกมรุกไม่มันส์เท่า ชิลเวลล์ แต่เกมรับทำได้เยี่ยมมาก โดยเฉพาะการเข้าแท็กเกิ้ล

    – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ : 8
        เล่นได้เยี่ยมมาก คุมแดนกลางได้โดดเด่น เข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง 7 ครั้ง และมีการผ่านบอลที่แม่นยำ

   – อาโยเซ่ เปเรซ : 9
        ฮอตมากๆ เป็นเกมที่เจ้าตัวจบสกอร์ได้อย่างเด็ดขาด จนทำแฮตทริกได้ ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกไปนั่งพักช่วงท้ายเกม

    – ยูริ ตีเลอมันส์ : 8
        ฟอร์มโดดเด่นต่อเนื่องสำหรับมิดฟิลด์ชาวเบลเยียม และเกมนี้ก็มีทั้งยิงและจ่ายอย่างละ 1

    – เจมส์ แมดดิสัน : 7.5
        เล่นได้กลางๆ และเกือบจะเป็นเกมที่ไม่มีทั้งแอสซิสต์และประตู จนกระทั่งมายิงฟรีคิกสุดสวยเป็นประตู 8-0 ช่วง 5 นาทีสุดท้าย

    – ฮาร์วีย์ บาร์นส์ : 8
        แม้ไม่มีสกอร์ แต่เป็นเกมที่เจ้าตัวเล่นได้โดดเด่นทีเดียว และก็มี 1 แอสซิสต์กับการหยอดบอลสุดแม่นให้ เปเรซ กระทุ้งประตู 6-0

    – เจมี่ วาร์ดี้ : 9
        ยิ่งแก่ยิ่งเก่งจริงๆ สำหรับอดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษวัย 32 ปี มีการเข้าทำที่เฉียบขาด และโชว์สปีดเข้าไปเรียกจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนสังหารเข้าไปไม่พลาดเป็นประตูปิดเกม 9-0 พร้อมกับทำแฮตทริกให้กับตัวเองสำเร็จ

 สำรองที่ได้ลงเล่น
    – มาร์ค อัลไบรท์ตัน (แทน บาร์นส์ น. 72) : 6

        มีการโชว์ลากเลื้อยให้เห็น และได้ลองยิงไป 1 ครั้ง

    – เดมาราย เกรย์ (แทน เปเรซ น. 74) : 5
        ไม่มีบทบาทอะไรมาก