post

“ฮาแลนด์” ยิง 2 เม็ด พา “เสือเหลือง” ขย้ำ “เปแอสเช” 2-1 ชปล.

Football-297

“เออร์ลิง ฮาแลนด์” หัวหอกดาวรุ่งของ “เสือเหลือง” จัดการยิงไป 2 ประตูพาทีมเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “เปแอสเช” 2-1  ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ประจำคืนวันอังคารที่ 18 ก.พ. 2563 “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรังเหย้าซิกนาล-อีดูนา ปาร์ค พบกับ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 10 นาที ทีมเยือนมีโอกาสทักทายก่อนจากลูกฟรีคิกของ เนย์มาร์ แต่บอลหลุดออกกรอบไปนิดเดียว ถัดมาอีกสามนาทีคราวนี้ทัพเสือเหลืองได้ลองส่องบ้างจาก เจดอน ซานโช แต่ก็ยังไม่ตรงกรอบเหมือนกัน และจบครึ่งแรกไป

เกมครึ่งหลังผ่านมา 15 นาที คีเลียน เอ็มบัปเป ทำชิ่งกับ เนย์มาร์ หลุดเข้าไปซัดแต่ยังติดเซฟของโรมัน เบอร์กี แต่แล้วประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 69 ดอร์ทมุนด์นำ 1-0 เมื่อ ฮาคิมี เปิดบอลจากทางขวาเข้าไปให้ เกร์เรยโร ซัดติดแนวรับเปแอสเชกระดอนมาเข้าทาง ฮาแลนด์ ตามมายิงแบบจ่อๆเข้าไป

“เปเอสเช” มาตามตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 75 จากจังหวะกระชากหลุด 4 คนของ เอ็มบัปเป ก่อนผ่านไปให้ เนย์มาร์ ยิงง่ายๆเข้าไป อย่างไรก็ตาม ฮาแลนด์ มายิงนำอีกครั้งจากการซัดด้วยซ้ายในช่วงเวลาห่างกันเพียง 2 นาที ดอร์ทมุนด์ นำ 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่เปิดเกมแรกกันไปมาซึ่งก็มีแต่จังหวะหวาดเสียวแต่ไม่มีประตูเพิ่มเติม ทำให้จบเกม “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์” เอาชนะ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง” 2-1 ไปรอลุ้นต่อเกมสองที่จะเปลี่ยนไปเตะสนามปาร์กเดแพร็งส์บ้านของเปแอสเช ในวันที่ 11 มีนาคม 2563

post

“เชลซี” ตายยาก ไล่เจ๊า “อาแจ็กซ์ฯ” 9 คนสุดเดือด 4-4

Football-284

เชลซีไล่ตามหลังผู้มาเยือนจากแดนกังหันลมตลอดทั้งเกม ก่อนจะได้เปรียบตัวผู้เล่นในช่วงครึ่งหลัง ไล่เจ๊ากับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปอย่างสุดมัน 4-4 

การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ประจำวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน โดยเกมในกลุ่ม เอช นัดที่ 4 ทีมจ่าฝูงอย่าง เชลซี เปิดบ้านที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมืออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์

เปิดฉากครึ่งแรกไปได้แค่ 2 นาที ทีมเยือนก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ควินซี โพรเมส เปิดฟรีคิกไปบอลแฉลบขา แทมมี อับราฮัม เข้าประตูไป

แต่ถัดมาแค่ 3 นาที เชลซีตีเสมอทันควันเป็น 1-1 จากการสังหารจุดโทษของ จอร์จินโญ

นาที 13 คริสเตียน พูลิซิช แทงบอลทะลุช่องให้ แทมมี อับราฮัม หลุดเข้าไปยิงตุงคาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อน

อย่างไรก็ตามนาที 20 ผู้มาอาแจ็กซ์พลิกขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ฮาคิม ซิเยค โยนบอลไปหน้าประตู ควินซี โพรเมส โหม่งเข้าไป

นาที 35 สกอร์ไหลเป็น 3-1 ฮาคิม ซิเยค เปิดฟรีคิกไปชนสามเหลี่ยม บอลกระดอนมาโดนหน้า เกปา อาร์ริซาบาลากา เข้าประตู และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 55 อาแจ็กซ์ขยับนำห่าง 4-1 ฮาคิม ซิเยค ผ่านบอลให้กับ ดอนนี ฟาน เดอ บีค ยิงเข้าไป

แต่หลังจากนั้นเจ้าถิ่นโหมบุกหนัก และมาตีตื้นเป็น 4-2 ในนาที 63 จากการตามซ้ำระยะเผาขนของ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา

นาที 68 อาแจ็กซ์ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 9 คน เมื่อ ดาลีย์ บลินด์ และ โจเอล เวลท์มัน โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

นาที 71 เชลซีไล่จี้มาเป็น 4-3 จากการสังหารจุดโทษอีกครั้งของ จอร์จินโญ

ถัดมาอีก 3 นาทีสิงห์บลูตามตีเสมอเป็น 4-4 จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู สุดท้ายเป็น รีซ เจมส์ ตะบันจากนอกกรอบตุงตาข่าย

นาที 78 กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อ เมื่อ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา ยิงเข้าไป แต่ผู้ตัดสินปฏิเสธให้เป็นประตู หลังภาพช้า VAR เห็นว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ แทมมี อับราฮัม ไปก่อนหน้านี้

ช่วงเวลาที่เหลือแม้พลพรรคสิงห์บลูจะเปิดหน้าแลกเต็มสูบ แต่จังหวะสุดท้ายกลับไม่เฉียบคมพอ

ทำให้จบเกม เชลซี เปิดบ้านไล่เจ๊า อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปอย่างสุดมัน 4-4