post

“ปิศาจแดง” เปิดศึกแย่งคว้าตัว “ไกเซโด” ที่โชว์ฟอร์มโหดในบอลโลก กับ 2 ทีมร่วมลีก

“แมนยูฯ” เปิดศึกทีมดังคว้า “มอยเซส ไกเซโด” หลังฟอร์มโดดเด่นในฟุตบอลโลก 2022 ไม่เบาแม้ทีมชาติจะตกรอบแรกเท่านั้น

สื่อกีฬาชื่อดังจากแดนผู้ดี รายงานว่า เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3 ทีมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเตรียมแผนการที่จะยื่นซื้อ มอยเซส ไกเซโด มิดฟิลด์ทีมชาติเอกวาดอร์ จาก ไบรจ์ตัน มาร่วมทีมให้ได้ในช่วงเดือนมกราคมนี้

โดย ไกเซโด เป็นที่หมายปองของหลายๆ ทีมร่วมพรีเมียร์ลีกมานานพักใหญ่ๆ แล้ว ประจวบเหมาะกับในช่วง ฟุตบอลโลก 2022 เจ้าตัวมีส่วนสำคัญที่ทำให้ เอกวาดอร์ ทำผลงานได้เป็นอย่างดี แม้จะตกแค่รอบแบ่งกลุ่ม แต่เก็บได้ 4 คะแนน และจบในอันดับ 3 ของกลุ่มเอ โดยเหนือกว่าเจ้าภาพ กาตาร์ ด้วยซ้ำ

ซึ่งมีการประเมินว่าค่าตัวหากย้ายในตลาดซื้อขายครั้งนี้จะมีโอกาสสูงถึง 60-70 ล้านปอนด์ (3 พันล้านบาท) เลยทีเดียว สำหรับ มอยเซส ไกเซโด ปัจจุบันด้วยวัยแค่ 20 ปีเท่านั้น อยู่กับ ไบรจ์ตัน มาแล้ว 1 ปี หลังย้ายมาเมื่อกลางซีซั่นที่แล้ว โดยมีผลงานกับทีม 18 เกม ยิงไป 2 ประตูในทุกรายการ

post

เผยรายชื่อแข้งใหม่รายแรกที่ “พอตเตอร์” จะดึงมาร่วมทัพ “เชลซี” หลังเจ้าตัวได้เข้ามาคุมทีม

“เกรแฮม พอตเตอร์” กุนซือคนใหม่ของทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ตกเป็นข่าวว่า เล็งที่จะคว้าตัวนักเตะใหม่ที่จะเสริมทัพเป็นรายแรกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ฟาบริซิโอ โรมาโน นักข่าวจอมแม่นแห่งตลาดซื้อขายนักเตะ รายงาน เกรแฮม พอตเตอร์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี วางแผนที่จะคว้าตัว ยอสโก กวาร์ดิโอล กองหลังทีมชาติโครเอเชีย ของ แอร์เบ ไลป์ซิก มาสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นรายแรก ในเดือนมกราคมปีหน้า

เป็นที่เข้าใจกันว่า พอตเตอร์ เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เชลซี แทนที่ โธมัส ทูเคิล ด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปี และแม้ว่า ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของทีมชาวอเมริกันจะทุ่มเงินเสริมทัพไปมหาศาลในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ก็มีงบประมาณที่จะให้ พอตเตอร์ ใช้จับจ่ายใช้สอยในการดึงนักเตะใหม่มาร่วมทีมช่วงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ รายงานล่าสุดระบุว่า พอตเตอร์ เล็งเป้าหมายไปที่ ยอสโก กวาร์ดิโอล กองหลังจอมแกร่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก และมุ่งมั่นที่จะทำให้เป็นการเซ็นสัญญาเสริมทัพรายแรกของเขาในฐานะกุนซือเชลซี

โดยปัจจุบัน กวาร์ดิโอล อายุ 20 ปีเท่านั้น และมีส่วนสูง 185 เซนติเมตร แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ เชลซี เพราะ กวาร์ดิโอล ยังเหลือสัญญากับ ไลป์ซิก จนถึงปี 2027 ดังนั้น ไลป์ซิกคงจะไม่ปล่อยง่ายๆ ถ้าได้ค่าตัวไม่มากพอ

post

“อบราโมวิช” เจ้าของทีม “สิงห์บลู” ออกมาแถลงการณ์ลดบทบาทบริหาร มอบให้มูลนิธิดูแลแทน

“โรมัน อบราโมวิช” เจ้าของทีมเชลซี ตัดสินใจลดบทบาทในการบริหารทีม และมอบหมายให้มูลนิธิการกุศลของสิงห์บลูรับหน้าที่ดูแลสโมสรแทน

วันที่ 26 ก.พ. 65 โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซียของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกแถลงการณ์มอบหมายให้มูลนิธิการกุศลของสโมสร รับสโมสรไปดูแลแทนที่ตนเอง

เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกคำสั่งให้กองกำลังหมีขาวโจมตีใส่ ยูเครน จนทำให้มีหลายฝ่ายออกมาแอนตี้การกระทำของ ปูติน ในครั้งนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวนำไปสู่การเรียกร้องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษให้ยึดทรัพย์สินของ อบราโมวิช เนื่องจากมองว่า อบราโมวิช มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับปูติน

กระทั่งล่าสุด อบราโมวิช ตัดสินใจมอบหน้าที่บริหารสโมสรให้มูลนิธิการกุศลของเชลซีรับหน้าที่ดูแลเป็นที่เรียบร้อย โดยระบุว่า “ช่วงเวลาเกือบ 20 ปีที่ผมเป็นเจ้าของทีมเชลซี ผมได้มองบทบาทของตัวเองในฐานะผู้ดูแลสโมสรเสมอมา ซึ่งงานก็คือการทำให้เราประสบความสำเร็จเหมือนที่เราทำได้ในวันนี้ เช่นเดียวกับการสร้างทีมเพื่ออนาคต ผมตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของสโมสรจากหัวใจของผมเสมอ และผมยังคำนึงถึงสิ่งนี้ นั่นคือเหตุผลที่วันนี้ผมจึงได้มอบการดูแลสโมสรเชลซีให้กับมูลนิธิการกุศลของสโมสร”

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวน่าจะสะเทือนไปถึง ทีมเชลซี ที่กำลังเตรียมทำศึกคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ พบกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ. 2022 นี้ไม่น้อย

post

มีข่าวว่า “เทอร์รี” มีสิทธิ์กลับมาร่วมงานกับ “สิงห์บลู” ในตำแหน่งกุนซือทีมเยาวชน

อดีตกองหลังระดับตำนานของ เชลซี หวนคืนกลับสู่อ้อมอกแฟนๆ สิงห์บลู อีกครั้ง โดยกลับมารับงานในตำแหน่งโค้ชทีมเยาวชน

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 มีสื่อกีฬาชื่อดังแดนผู้กี ได้ออกมารายงานว่า “จอห์น เทอร์รี” อดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษ ได้กลับมาร่วมงานกับ เชลซี อดีตต้นสังกัดเก่าอีกครั้ง โดยการกลับมาครั้งนี้มารับงานในตำแหน่งโค้ชทีมเยาวชนของสโมสร

อย่างที่ทราบดีว่า เทอร์รี อยู่กับเชลซี มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 1998 และค้าแข้งอยู่นานหลายปีก่อนที่จะโบกมือลาทีมไปในปี 2017 และไปอยู่กับ แอสตัน วิลลา ก่อนจะแขวนสตั๊ดและขึ้นไปรับงานเป็นผู้ช่วยโค้ชของ ดีน สมิธ กุนซือคนก่อนหน้านี้ และโบกมือลาสโมสรไปตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ซึ่งมีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เทอร์รี ได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสร ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เป็นมือขวาของ ดีน สมิธ ในถิ่น วิลลา พาร์ค แต่อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษเลือกตอบปฏิเสธทุกงานที่เข้ามา และรอคอยข้อเสนอที่เหมาะสมสำหรับเจ้าตัว

สำหรับ จอห์น เทอร์รี ถือเป็นตำนานของเชลซีอย่างแท้จริง โดยค้าแข้งกับทีมมานานถึง 19 ปี ประสบความสำเร็จครองแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอคัพ 5 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 1 สมัย

post

“เดมบา บา” อดีตหอกของทัพ “สิงห์บลู” ประกาศแขวนสตั๊ดแล้วในวัย 36 ปี

“เดมบา บา” อดีตดาวยิงชาวเซเนกัลที่เคยค้าแข้ง “เชลซี” ประกาศแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวัย 36 ปี แม้เพิ่งเซ็นสัญญากับทีมใหม่ได้ 3 เดือน

วันที่ 14 ก.ย. 64 เดมบา บา อดีตดาวยิงชาวเซเนกัลที่เคยค้าแข้งกับทีมดังอย่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวัย 36 ปี แม้เพิ่งเซ็นสัญญากับ เอฟซี ลูกาโน ทีมในลีกสวิตเซอร์แลนด์ แบบไม่มีค่าตัว ด้วยสัญญา 1 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน หรือราว 3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง

เป็นที่เข้าใจกันว่า เดมบา บา กลายเป็นที่จดจำในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ตัวเขาฉกบอลจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมระดับสัญลักษณ์ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เข้าไปยิงประตูให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี บุกมาเอาชนะถึงแอนฟิลด์ 2-0 เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014

ซึ่งนี่เป็นความพ่ายแพ้ของเจ้าถิ่นที่ส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงเข้าป้ายคว้าแชมป์ในที่สุด

สำหรับ เดมบา บา เคยผ่านการค้าแข้งมากับทีมดังๆ อย่าง ฮอฟเฟนไฮม์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, เชลซี, เบซิคตัส, เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว, อิสตันบูล บาชัคเซเฮียร์ รวมถึงทีมล่าสุดอย่าง เอฟซี ลูกาโน ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด

post

“อาซาร์” จ่อคัมแบ็กเวทีพรีเมียร์ลีก พร้อมเลือกทีมใหม่เรียบร้อย

“เอเดน อาซาร์” ปีกของเรอัล มาดริด ตกเป็นข่าว เตรียมกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และได้เลือกทีมใหม่แล้วเรียบร้อย

เอเดน อาซาร์ ปีกทีมชาติเบลเยียมของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลาลีกา สเปน ต้องการย้ายกลับมาค้าแข้งกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สโมสรแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงซัมเมอร์นี้

สำหรับ อาซาร์ด วัย 30 ปี ย้ายจาก เชลซี ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 103.5 ล้านปอนด์

แต่เขาลงเล่นไปเพียง 30 นัด จาก 2 ฤดูกาลในสเปน ซัดไปเพียง 5 ประตู

และตามรายงานล่าสุดระบุว่า เรอัล มาดริด พร้อมที่จะปล่อยตัว อาซาร์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และนำเงินเข้ามาสู่สโมสร ขณะที่ตัวของ อาซาร์ ก็ต้องการจะกลับไปค้นหาฟอร์มเก่งของตัวเองอีกครั้งกับ เชลซี

สำหรับ อาซาร์ด เคยใช้เวลา 7 ปี กับ เชลซี ลงเล่นไป 352 นัด ซัดไป 110 ประตู ช่วยสิงห์บลูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย และ ยูโรปาลีก 2 สมัย

post

ลือสนั่นว่า “ซานโช” ได้เลือกต้นสังกัดใหม่แล้ว หลังมีข่าวอย่างหนักกับ “แมนยูฯ-เชลซี”

จาดอน ซานโช ปีกตัวเทพของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตกเป็นข่าว ตัดสินใจเลือกต้นสังกัดใหม่แล้ว หลังได้รับความสนใจจากทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี

วันที่ 2 มิ.ย. 64 สื่อดังแดนผู้ดี รายงาน จาดอน ซานโช ปีกทีมชาติอังกฤษของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรแกร่งแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ต้องการย้ายไปร่วมทีม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในช่วงซัมเมอร์นี้

สำหรับ ซานโช วัย 21 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม กระหน่ำไปถึง 16 ประตู กับอีก 20 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 38 นัดรวมทุกรายการให้กับ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลที่ผ่านมา

ส่งผลให้เขาได้รับความสนใจจาก 2 สโมสรใหญ่ในอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ที่กำลังมองหาปีกคนใหม่มาเสริมแนวรุก

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากสื่อดังแดนผู้ดีระบุว่า ซานโช ต้องการย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่า เชลซี และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะย้ายไปสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้

ทั้งนี้ เชื่อกันว่าการย้ายทีมของ ซานโช ไปสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกที หลังมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ยูไนเต็ด สามารถบรรลุข้อตกลงส่วนตัว กับ ซานโช ได้แล้ว ส่วนเรื่องค่าตัวเชื่อกันว่าเม็ดเงินจำนวน 85 ล้านปอนด์ ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ ดอร์ทมุนด์ ยอมปล่อย ซานโช ออกจากถิ่นซิกนัล อิดูนา พาร์ค ได้

post

“ป๋าแลมพ์” ถึงกับเซ็ง หลัง “เชลซี” บุกไปแพ้ให้กับ “วูล์ฟแฮมป์ตัน”

Football-334

กุนซือของทีม “สิงห์บลู” ออกอาการส่ายหน้า และผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของลูกทีมในเกมนัดล่าสุด ที่โดนวูล์ฟแฮมป์ตันแซงเอาชนะไปแบบสุดเจ็บแสบในช่วงท้ายเกม

ความเคลื่อนไหวหลังเกมพรีเมียร์ลีก 2020-21 เมื่อคืนวันอังคาร ซึ่ง เชลซี บุกไปพ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปแบบสุดช้ำ 1-2

โดยทีมเยือนได้ประตูออกนำไปก่อนจาก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แต่เจ้าถิ่นจะมาทวงคืน 2 ประตูรวด จากผลงานของ ดาเนียล โพเดนซ์ และ เปโดร เนโต

หลังจบเกม แฟรงค์ แลมพาร์ด ออกมากล่าวว่า “ฟอร์มการเล่นจะเป็นตัวกำหนดผลงานแข่งขันของคุณ บางทีนักเตะอาจคิดว่าเราเล่นได้ดีแล้ว ซึ่งถ้าคุณคิดแบบนั้นเมื่อไหร่ มันก็จะเกิดขึ้นแบบนี้แหละ”

“บางทีนักเตะควรคิดถึงเกมนี้ ในระหว่างที่พวกเขากำลังพักผ่อน พวกเขาควรคิดถึงความพ่ายแพ้ ควรคิดถึงเกมกับเอฟเวอร์ตัน เพราะนี่คือพรีเมียร์ลีก ถ้าคุณไม่สามารถโชว์ฟอร์มให้ดี คุณก็จะเป็นผู้แพ้”

“ตอนนำอยู่ 1-0 เราควรจะปิดเกมได้แล้ว ถึงแม้เราจะทำได้ไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อทีมนำอยู่ก็ควรควบคุมเกมเอาไว้ให้ได้ และพยายามไม่ให้พวกเขาเล่นเกมโต้กลับเร็ว แต่เรากลับทำไม่ได้จนจบเกม”

ขณะที่ เอ็นโกโล ก็องเต กล่าวว่า “เรารู้สึกผิดหวังเสมอเมื่อเป็นฝ่ายแพ้ ในช่วงครึ่งแรกเราทำได้ไม่ดีเท่าไร แต่เมื่อได้ประตูขึ้นนำ เราก็ควรจัดการคู่แข่งให้ได้ เพื่อเป็นผู้ชนะในเกมนี้ แต่เรากลับโดนทีเด็ดจากลูกสวนกลับเร็ว และสิ่งที่เกิดขึ้นใน 2 นัดล่าสุด ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลยจริงๆ”

จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ เชลซี รั้งอันดับ 5 ชั่วคราว มีอยู่ 22 คะแนนจาก 13 นัด ตามหลัง สเปอร์ส จ่าฝูงอยู่ 3 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด

post

แฟนเชลซีเซ็ง!สโมสรไม่รีบต่อสัญญาอับราฮัม,เจมส์

Football-293

สื่ออังกฤษปูด แทมมี่ อับราฮัม และ รีซ เจมส์ ยังต้องรออีกนานกว่าจะได้ต่อสัญญากับ เชลซี แม้เพื่อนๆ หลายคนได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ไปแล้วก็ตาม

เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับการที่จะจับ แทมมี่ อับราฮัม และ รีซ เจมส์ สองผู้เล่นดาวรุ่ง เซ็นสัญญาฉบับใหม่

ตามรายงานจาก เดอะ เทเลกราฟ สื่อชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เมื่อเร็วๆ นี้ ฟิคาโย่ โทโมรี่, เมสัน เมาท์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ต่างทยอยกันจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ เชลซี และก็คาดกันว่า อับราฮัม กับ เจมส์ น่าจะได้รับสัญญาฉบับใหม่จากต้นสังกัดในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ ระบุว่า ทั้งสองยังไม่ได้ใกล้เคียงกับการได้ต่อสัญญา ถึงแม้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ก็ตาม

สำหรับฤดูกาลนี้ อับราฮัม กลายเป็นกองหน้าตัวหลักของ “สิงห์บลูส์” โดยลงเล่นไปแล้ว 24 นัด ทำได้ 13 ประตู ส่วน เจมส์ ลงเล่น 14 นัด ทำได้ 2 ประตู

post

“เชลซี” ตายยาก ไล่เจ๊า “อาแจ็กซ์ฯ” 9 คนสุดเดือด 4-4

Football-284

เชลซีไล่ตามหลังผู้มาเยือนจากแดนกังหันลมตลอดทั้งเกม ก่อนจะได้เปรียบตัวผู้เล่นในช่วงครึ่งหลัง ไล่เจ๊ากับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปอย่างสุดมัน 4-4 

การแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ประจำวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน โดยเกมในกลุ่ม เอช นัดที่ 4 ทีมจ่าฝูงอย่าง เชลซี เปิดบ้านที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมืออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์

เปิดฉากครึ่งแรกไปได้แค่ 2 นาที ทีมเยือนก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ควินซี โพรเมส เปิดฟรีคิกไปบอลแฉลบขา แทมมี อับราฮัม เข้าประตูไป

แต่ถัดมาแค่ 3 นาที เชลซีตีเสมอทันควันเป็น 1-1 จากการสังหารจุดโทษของ จอร์จินโญ

นาที 13 คริสเตียน พูลิซิช แทงบอลทะลุช่องให้ แทมมี อับราฮัม หลุดเข้าไปยิงตุงคาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปก่อน

อย่างไรก็ตามนาที 20 ผู้มาอาแจ็กซ์พลิกขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ฮาคิม ซิเยค โยนบอลไปหน้าประตู ควินซี โพรเมส โหม่งเข้าไป

นาที 35 สกอร์ไหลเป็น 3-1 ฮาคิม ซิเยค เปิดฟรีคิกไปชนสามเหลี่ยม บอลกระดอนมาโดนหน้า เกปา อาร์ริซาบาลากา เข้าประตู และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 55 อาแจ็กซ์ขยับนำห่าง 4-1 ฮาคิม ซิเยค ผ่านบอลให้กับ ดอนนี ฟาน เดอ บีค ยิงเข้าไป

แต่หลังจากนั้นเจ้าถิ่นโหมบุกหนัก และมาตีตื้นเป็น 4-2 ในนาที 63 จากการตามซ้ำระยะเผาขนของ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา

นาที 68 อาแจ็กซ์ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 9 คน เมื่อ ดาลีย์ บลินด์ และ โจเอล เวลท์มัน โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

นาที 71 เชลซีไล่จี้มาเป็น 4-3 จากการสังหารจุดโทษอีกครั้งของ จอร์จินโญ

ถัดมาอีก 3 นาทีสิงห์บลูตามตีเสมอเป็น 4-4 จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู สุดท้ายเป็น รีซ เจมส์ ตะบันจากนอกกรอบตุงตาข่าย

นาที 78 กองเชียร์เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อ เมื่อ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา ยิงเข้าไป แต่ผู้ตัดสินปฏิเสธให้เป็นประตู หลังภาพช้า VAR เห็นว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ แทมมี อับราฮัม ไปก่อนหน้านี้

ช่วงเวลาที่เหลือแม้พลพรรคสิงห์บลูจะเปิดหน้าแลกเต็มสูบ แต่จังหวะสุดท้ายกลับไม่เฉียบคมพอ

ทำให้จบเกม เชลซี เปิดบ้านไล่เจ๊า อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปอย่างสุดมัน 4-4