post

แฟนหงส์ว่าไง เมื่อตัวรับริมเส้นอย่าง “เทรนท์” ถูกมองว่าเป็นจุดบอดของทีม

กลับคืนฟอร์มอีกครั้งสำหรับพลพรรค “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล หลังจากเปิดบ้านไล่อัด กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ไปแบบสบายๆ 2–0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สาม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ซึ่งเกมนี้นักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วง 2–3 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์–อาร์โนลด์ ก็ยิงฟรีคิกสุดสวยในเกมนี้ด้วย

ช่วงที่ผ่านมา เทรนท์ถือว่าเป็นนักเตะที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในวงการลูกหนังผู้ดีเป็นอย่างมาก เพราะกำลังมีประเด็นว่าเจ้าตัวสมควรที่จะติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ ที่จะเริ่มเปิดฉากวันที่ 20 พ.ย. 65 นี้ หรือไม่

หลังช่วงหลังๆเจ้าตัวมีปัญหาในการเล่นแนวรับอย่างมาก จนกลายเป็นจุดอ่อนของ “หงส์แดง” นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา ใช่ว่าก่อนหน้านี้เทรนท์จะเล่นแนวรับได้ดี

แค่ที่ผ่านมายังมีเวอร์จิล ฟาน ไดก์ หรืออลิสสัน เบคเกอร์ คอยช่วยตามล้างตามเช็ดจนไม่เสียประตูจึงไม่เป็นประเด็นมากเท่าไรแต่

แต่ในช่วง 3-4 นัดหลังนี้กลายเป็นแนวรับ “หงส์แดง” ฟอร์มตกทั้งแผงเสียประตูค่อนข้างง่ายจนทำให้เริ่มเห็นชัดเจนว่าจุดอ่อนของแนวรับคือ “เทรนท์” นั่นเอง

ไม่ใช่ว่าเทรนท์เล่นเกมรับไม่ดี แต่เทรนท์ ไม่สนใจเกมรับต่างหาก เพราะเจ้าตัวนั้นติดใจเดินหน้าเล่นเกมรุกแบบเมามัน พอโดนตัดเกมได้ก็ไม่ค่อยจะวิ่งลงมารับผิดชอบหน้าที่ของตนเองจนโดนเจาะตรงนั้นบ่อยครั้ง

จนมีการนำไปเปรียบเทียบว่าเทรนท์คือ “แฮร์รี แมคไกวร์ เวอร์ชัน 2” กันเลยทีเดียว

post

คล็อปป์ชี้จุดเด่นแมนยู-นักเตะอันตรายต้องจับตา

Football-266

เจอร์เก้น คล็อปป์ อัพเดตความพร้อม ลิเวอร์พูล ก่อนไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมชี้จุดเด่นของ “ปีศาจแดง” และนักเตะที่ต้องจับตาเอาไว้ให้ดี

     เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความอันตรายในเรื่องความเร็วของนักเตะ โดยเฉพาะ แดเนียล เจมส์ ปีกทีมชาติเวลส์ ทำให้ “หงส์แดง” ไม่สามารถประมาทได้เลยในเกมแดงเดือด ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้

Football-267

    กุนซือชาวเยอรมัน เผยว่า “เขา (เจมส์) เป็นนักเตะที่ดีมาก อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่า ทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจมส์ จะลงสนาม ความเร็วและคุณภาพของพวกเขาจะมีทั่วทั้งสนาม” 

Football-268

    พร้อมกันนี้ คล็อปป์ ยังเผยว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมชาติอียิปต์ และ โฌแอล มาติป ปราการหลังจอมแกร่ง กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และทั้ง 3 คนมีโอกาสจะได้ลงเล่นในวันอาทิตย์นี้ 

    “อลีสซง, โฌแอล และ โม ดูดีขึ้น เราจะต้องรอดูกันต่อไป มันยังเหลือช่วงซ้อมอีก 2 เซสชั่น จากนั้นเราถึงค่อยตัดสินใจ มันยังไม่มีอะไรแน่นอน” นายใหญ่ “หงส์แดง” กล่าวในที่สุด

post

อย่างนี้นี่เอง!ฟาวเลอร์เผยสาเหตุที่คล็อปป์เลือกคุมลิเวอร์พูล

Football-254

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ระบุ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ มากุมบังเหียน ลิเวอร์พูล เป็นเพราะทีมให้ความสำคัญในเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลมากเท่ากับเรื่องการเงิน พร้อมเผย ทักษะการจัดการกับคนคือสิ่งที่ คล็อปป์ เหนือกว่ากุนซือหลายคน

    ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานกองหน้าของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ บอกว่าสาเหตุที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจมาเป็นผู้จัดการทีมของ “หงส์แดง” นั้น เป็นเพราะ ลิเวอร์พูล ให้ความสำคัญกับเรื่องประวัติศาสตร์และเอกลักษณ์ของสโมสรมากพอๆ กับเรื่องธุรกิจ ต่างกับหลายทีมที่สนใจแต่เรื่องเงินมากกว่าความเป็นสโมสรฟุตบอล

    คล็อปป์ ได้รับความสนใจจากหลายทีมทั่วทวีปยุโรปตั้งแต่ตอนที่อยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แล้ว จากการที่เขาสร้างทีมขึ้นมาสู้กับ บาเยิร์น มิวนิค ได้อย่างสูสี และพอเจ้าตัวแยกทางกับ “เสือเหลือง” หลังจบฤดูกาล 2014-15 เขาก็มีข่าวกับหลายต่อหลายทีม ก่อนจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้เขามากุมบังเหียนต่อจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หลังเริ่มซีซั่น 2015-16 ไปได้ไม่นาน

Football-255

    ฟาวเลอร์ กล่าวผ่านคอลัมน์ของตัวเองใน เดอะ มิร์เรอร์ สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดีว่า “เมื่อราว 2 ปีก่อนผมได้โอกาสสัมภาษณ์เขา และเขาก็บอกผมว่าเขาปฏิเสธข้อเสนอจากทีมที่รวยมากๆ ไปถึง 2 ครั้งหลังจากที่แยกทางกับ ดอร์ทมุนด์ ไปแล้ว ซึ่งผมเชื่อว่าหนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่ๆ ส่วนอีกทีมอาจจะเป็น เรอัล มาดริด ก็ได้มั้ง สาเหตุที่เขาปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้นไปน่ะเป็นยเพราะเขาเกลียดที่ทั้ง 2 ทีมนั้นหมกมุ่นอยู่กับอิทธิพลด้านธุรกิจนอกสนามเป็นหลัก”

    “เขาบอกว่าเขาชอบ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาให้ความสำคัญระหว่างเรื่องจำนวนเงินที่ต้องใช้เพื่อที่จะขึ้นไปเป็นยอดทีม กับเรื่องประวัติศาสตร์และเอกลักษณ์ของสโมสร รวมถึงเอกลักษณ์ของแฟนบอลในระดับที่เท่าๆ กัน เขายังบอกด้วยว่าเขาเชื่อมั่นว่าตัวเองสามารถทำให้ แอนฟิลด์ กลับไปเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งได้ ต่อให้จะไม่ต้องมีนักเตะระดับโลกอยู่ในทีมมากมายก่ายกองก็ตาม เขาเชื่อมั่นว่าเขาสามารถทำให้ทีมกลับไปครองความยิ่งใหญ่ในแนวทางที่ต่างออกไปได้ (หมายถึงเชื่อว่าต่อให้ไม่มีแข้งซูเปอร์สตาร์เต็มทีม แต่ก็ยังสามารถทำให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นยอดทีมได้) แน่นอนว่าเขายังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่เขาก็ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล กลับมามีความเชื่อมั่น และกลับไปมีความภาคภูมิใจในตัวสโมสรด้วย ผมมองเห็นถึงเรื่องนั้นได้อย่างชัดเจน”

    อดีตดาวยิงคนดังเสริมว่าจุดที่ คล็อปป์ เหนือกว่ากุนซือหลายต่อหลายคน คือการที่เจ้าตัวมีทักษะการจัดการกับคนที่ยอดเยี่ยม “เขากำหนดแท็กติกทุกอย่าง รวมถึงเชี่ยวชาญทั้งเรื่องแผนการเล่น, วิทยาศาสตร์ และการวิเคราะห์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นกว่าคนอื่นก็คือทักษะการจัดการกับคน ผมน่ะแวะไปที่สโมสรบ่อยๆ และผมก็เห็นเลยว่าทุกคนต่างก็รัก คล็อปป์ กันทั้งนั้น พวกเขา (นักเตะ ลิเวอร์พูล) เห็นถึงอารมณ์ร่วม, ความเชื่อมั่น รวมถึงความทุ่มเทของเขา ซึ่งพวกเขาก็อยากมีสิ่งแบบนั้นบ้าง และบรรดาแฟนบอลเองก็เห็นถึงเรื่องนั้น”

    “ผมอยากเชื่อว่าผมเองก็มีความสัมพันธ์แบบนั้นกับแฟนบอลเหมือนกันในตอนที่ผมยังเล่นอยู่ที่นั่น ผมอยากเชื่อว่าพวกเขาเข้าใจว่ามันมีความหมายกับผมมากแค่ไหนที่ได้เล่นให้ทีมบ้านเกิดของผม และได้สวมเสื้อตัวนั้น ซึ่งความสัมพันธ์แบบนั้นมันมีความหมายมากๆ”

    “เกมสุดท้ายของผมกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งก็คือเกมเจอกับ ชาร์ลตัน ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2007 โดยที่ผมได้เป็นกัปตันทีมด้วยน่ะ คือหนแรกและหนเดียวจนถึงตอนนี้ที่ผมร้องไห้ในสนาม การต้องบอกลาความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับแฟนบอลมันถือว่าน่าเสียใจมากๆ ซึ่ง คล็อปป์ ก็มีสิ่งนั้นเหมือนกัน และมันก็ทำให้คนที่ผมรู้จัก และตัวผมเองเชื่อว่านี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ ลิเวอร์พูล เท่านั้น”