สบายเท้า! ฝรั่งเศส ไล่ขยี้ อันดอร์รา 3-0 นำฝูงกลุ่มเอช คัดยูโร

Football-62

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช คู่ระหว่าง ทีมชาติฝรั่งเศส เปิดสนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติอันดอร์รา

ตราไก่ จ่าฝูงของกลุ่ม ล่าสุดถล่ม อัลแบเนีย 4-1 เกมนี้ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดย อองตวน กรีซมันน์, คิงส์ลี โกมาน, โจนาธาน อิโกเน และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์

ด้าน อันดอร์รา ยังไม่พบกับคำว่าชัยชนะแพ้มา 5 เกมติด นัดนี้ กอลโด อัลบาเรซ เฮดโค้ชจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 นำมาโดย มาร์ซิโอ บิเอรา และ คริสเตียน มาณืติเนซ คู่หัวหอก

ผลปรากฏว่า เริ่มเกมมา ฝรั่งเศส คุมเกมรุกได้หมดทันที นาทีที่ 18 ฝรั่งเศส ได้ประตูนำ 1-0 จาก คิงส์เล่ย์ โกมัน สอดมาจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงเสยตาข่ายเข้าไป

และ ทำให้จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส นำเพียงลูกเดียว และก็เป็นการพลาดจุดโทษนัดที่ 2 ติดต่อกันของ กรีซมันน์ อีกด้วย

ครึ่งหลังนาที 52 ฝรั่งเศส ได้ประตูนำ 2-0 จากฟรีคิกฝั่งซ้ายที่ กรีซมันน์ เปิดเข้าเขตโทษไปถึง เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ กระโดดโขกเน้นๆ ส่งบอลตุงตาข่ายไม่เหลือ

นาที 60 ฝรั่งเศส ได้ลุ้นอีกหน ลูก้าส์ ดีญ โยนบอลเข้าเขตโทษให้ ชิรูด์ โหม่ง แต่น้ำหนักเบาไปและเข้ามือ โจเซ็ป โกเมส

ฝรั่งเศส พลาดได้ประตูอีกในนาที 68 เมื่อ กรีซมันน์ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ มุสซ่า ซิสโซโก้ สอดมาโขกได้แล้วแต่บอลพุ่งชนคานอย่างจัง

ตราไก่ ยังคงครองเกมรุกต่อเนื่อง นาที 81 โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ โยนบอลเข้าเขตโทษให้ กรีซมันน์ ที่เลือกยิงเองแม้มีเพื่อนรอตรงกลาง ทว่าบอลก็ไม่ผ่านมือ โจเซ็ป โกเมส

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 ตราไก่มาได้ประตูปิดกล่องจากตัวสำรอง วิสแซม เบน เยดแดร์ ตามซ้ำลูกฟรีคิกของ นาบิล เฟกิร ตัวสำรองอีกคนเข้าไป ทำให้จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ อันดอร์รา 3-0 เก็บ 3 แต้ม แข่ง 6 นัด มี 15 คะแนนรั้งจ่าฝูงกลุ่ม เอช ต่อไป ส่วน อันดอร์รา ยังไม่มีคะแนนรั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

“ซานโช่” เบิ้ล! อังกฤษ ถล่ม โคโซโว 5-3 นำจ่าฝูงกลุ่มเอ คัดยูโร

Football-61

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เปิดสนามเซนต์ แมรีส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ทีมชาติโคโซโว

แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามแนวรุกเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, แฮร์รี เคน และ จาดอน ซานโช

ด้านทีมเยือนของ เบอร์นาร์ด ชาลเลนเดส วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 โดยฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่หน้าเป้าอย่าง เวดาต มูริกิ

ครึ่งแรกมาแค่นาทีเดียว โคโซโว ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก วาลอน เบริชา ซัดเข้าไปตุงตาข่าย

จากนั้นนาทีที่ 8 อังกฤษ ตีเสมอเป็น 1-1 จาก ราฮีม สเตอร์ลิง โขกเข้าไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 19 อังกฤษ พลิกขึ้นนำ 2-1 จากแฮร์รี เคน กดด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือซาก

นาทีที่ 38 อังกฤษหนีเป็น 3-1 จาก เมอร์กิม วอจโวดา ผู้เล่นโคโซโวสกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป

นาทีที่ 44 อังกฤษ นำห่าง 4-1 จาก จาดอน ซานโช ซัดเข้าไปอย่างเฉียบขาด

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+1 อังกฤษ ทิ้งไปไกลเป็น 5-1 จาก จาดอน ซานโช ยิงเข้าไปง่ายๆ จบครึ่งแรก อังกฤษ นำ โคโซโว 5-1

ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 โคโซโว ไล่มาเป็น 2-5 จากการยิงของ วาลอน เบริชา และจากนั้นนาทีที่ 55 โคโซโว ได้จุดโทษ และเป็น มูคิริ รับหน้าที่สังหารเองไม่พลาดพาโคโซโวไล่มาเป็น 3-5

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ทีมชาติอังกฤษ ชนะ ทีมชาติโคโซโว 5-3 เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนนจาก 4 นัด นำเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอ

ผลคู่อื่น

กลุ่มเอ

  • มอนเตเนโกร แพ้ เช็ก 0-3
  • อังกฤษ ชนะ โคโซโว 5-3

กลุ่มบี

  • ลิทัวเนีย แพ้ โปรตุเกส 1-5
  • ลักเซมเบิร์ก แพ้ เซอร์เบีย 1-3

กลุ่มเอช

  • แอลเบเนีย ชนะ ไอซ์แลนด์ 4-2
  • ฝรั่งเศส ชนะ อันดอร์รา 3-0
  • มอลโดวา แพ้ ตุรกี 0-4

บ่นกันยับ! “แฟนบอลอินโดฯ” หลังเปิดบ้านโดน ไทย บุกถล่มยับ 3-0

Football-24

จบลงไปเรียบร้อยสำหรับ ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ของกลุ่มจี ที่ ทีมชาติอินโดนีเซีย เป็นฝ่ายแพ้คาบ้านให้กับ ทีมชาติไทย 0-3 เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา เราลองไปฟังความคิดเห็นของแฟนๆ ชาวอินโดนีเซีย กันเกี่ยวกับเกมนัดนี้กัน

คอมเมนต์ที่ 1
เราต้องการผู้เล่นอินโดนีเซียจริงๆ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะลงสนาม แม้เราจะแพ้แต่เราคงภูมิใจกว่านี้ พวกผู้เล่นโอนสัญชาติไม่ได้ทำให้ผลงานดีขึ้นเลย

คอมเมนต์ที่ 2
เอาจริงๆ แฟนบอลไม่ได้สนใจผลการแข่งขันขอเพียงเล่นด้วยความมุ่งมั่น อย่างในฟุตบอลกาตาร์คัพ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เราตกเป็นฝ่ายตามหลัง 1-6 แต่สุดท้ายแพ้ไปที่ 5-6 แม้จะแพ้แต่เราก็ภูมิใจ

คอมเมนต์ที่ 3
เปอร์ซิย่า กำลังอยู่ในโซนตกชั้น แต่ทำไม อันดรีตานี่ อาร์ดิห์ยาซ่า ผู้รักษาประตูยังคงถูกใช้งาน ในขณะที่นายด่านของสโมสรหัวแถวกลับต้องมานั่งเป็นสำรอง คุณเป็นโค้ชประเภทไหนกัน

Football-25

คอมเมนต์ที่ 4
ผู้เล่นอินโดนีเซีย ชอบที่จะเลี้ยงบอลเยอะเกินไป และเพื่อนก็ไม่ค่อยขยับรับบอล ขณะที่ผู้เล่นไทย จะใช้บอลในการเคลื่อนที่ทำให้ไม่ต้องวิ่งกันมากมาย

คอมเมนต์ที่ 5
สุดท้ายเราจะเป็นรองแม้กระทั่ง ติมอร์ เลสเต้ ไม่เชื่อคอยดู

คอมเมนต์ที่ 6
ฉันไม่เข้าใจทำไมเราต้องโห่ใส่ผู้รักษาประตูของเราเอง

คอมเมนต์ที่ 7
ค่าเฉลี่ยของ อันดรีตานี่ อาร์ดิห์ยาซ่า ผู้รักษาประตูของเราดีจริงๆ โดนนัดละ 3 ลูก

Football-26

คอมเมนต์ที่ 8
นักเตะของเราชุดนี้แก่เกินไป ทำให้ได้ผลการแข่งขันที่น่าอายแบบนี้ จะดีกว่าถ้าเราส่งผู้เล่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงสนาม เพราะไม่ว่าผลจะเป็นแบบใด ก็ถือว่าได้ประสบการณ์

คอมเมนต์ที่ 9
สมาคมฟุตบอล (PSSI) ต้องยกเครื่องใหม่ คนที่ไม่มีความสามารถต้องออกไป คนที่เข้าใจฟุตบอล และสามารถทำให้วงการลูกหนังเดินหน้าต่อไปควรเข้ามาทำ ฉันรู้สึกอายที่ได้เห็นผลงานในสองเกมที่ผ่านมา

คอมเมนต์ที่ 10
พวกเขายังเชื่อมั่นในตัวผู้เล่นโอนสัญชาติ พวกเขายังคงอยู่ในกะลา

คอมเมนต์ที่ 11
ไม่ว่าผู้เล่น และโค้ชจะเป็นใคร แต่ถ้าผู้บริหารไม่สามารถทำงานให้ดีมันก็เป็นเรื่องยาก ยกเครื่องสมาคมทั้งหมด!!!

Football-27

คอมเมนต์ที่ 12
การโอนสัญชาตินักเตะไม่ได้ช่วยอะไร สมาคมล้มเหลวอย่างแท้จริง ทั้งผู้ฝึกสอนและผู้ช่วยไม่ต้องมาอ้างอะไร สุดท้ายก็โดน ทีมชาติไทย บุกมาสอนบอล 3-0

คอมเมนต์ที่ 13
อย่าไปโทษโค้ชเลย ในครึ่งแรกผลงานของทีมก็ออกมาดี แต่สุดท้ายหลายคนก็หมดแรงในครึ่งหลัง มันคือข้อผิดพลาด ผู้เล่นของเราอ่อนแอเกินไป

คอมเมนต์ที่ 14
อินโดนีเซีย มีผู้เล่นที่มีคุณภาพและทักษะมากมาย แต่มันเป็นเรื่องยากเสมอเมื่อต้องเจอกับของจริงอย่าง ไทย, เวียดนาม และมาเลเซีย
การแข่งขันอย่างเป็นทางการเราจะแพ้เสมอ แต่หากเป็นเกมภายในประเทศทุกคนจะแสดงศักยภาพที่เหลือเชื่อออกมา

Football-28

คอมเมนต์ที่ 15
ไหนใครบอกว่า ทีมชาตไทย ชุดนี้ไม่เก่ง

คอมเมนต์ที่ 16
อินโดนีเซีย ไม่สามารถเล่นเกมระดับนี้ได้ การเล่นกับเพื่อนร่วมอาเซียนยังแพ้ขนาดนี้ แล้วถ้าไปเจอกับทีมยุโรปคุณไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะโดนเท่าไร
อีกเรื่องคือ ผู้รักษาประตูของเราย่ำแย่มากๆ เราควรเปลี่ยนผู้รักษาประตูรายนี้เสียที

คอมเมนต์ที่ 17
ทีมชาติไทย เล่นบอลได้สวยงาม ส่งบอลกันแม่นยำ ขณะที่ผู้เล่นของเราเล่นเหมือนเพิ่งเคยลงสนาม จริงๆ เราน่าจะส่งผู้เล่นอายุ 19 ปี หรือ 22 ปี ลงสนามนะเพราะมันจะได้เป็นประสบการณ์ และแก้ปัญหานักเตะมากประสบการณ์ไร้ใจ

“ฮอตช็อต” เชื่อ “เคน” จะทำลายสถิติในทีมชาติของ “รูนีย์”

Football-6

อลัน เชียร์เรอร์ ตำนานกองหน้าแห่งศึก พรีเมียร์ลีก และ ทีมชาติอังกฤษ เชื่อว่า ​แฮร์รี เคน จะสามารถทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดของ เวย์น รูนีย์ ที่ยิงไว้ให้กับทัพสิงโตคำรามที่ 53 ประตูได้แน่นอน

“หลังทำแฮตทริกได้ในเกมกับ บัลแกเรีย เมื่อวันเสาร์ แฮร์รี เคน ก็ก้าวข้ามสถิติการยิงประตูให้ทีมชาติอังกฤษของ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ไปเรียบร้อยแล้ว และตามหลังผมอยู่แค่ 5 ลูกเท่านั้น” ฮอตช็อต กล่าว

“แน่นอนว่าเขาจะแซงผมได้ในอนาคตอันใกล้ และแน่นอนว่าต้องทำลายสถิติของ เวย์น รูนีย์ ที่ 53 ลูกได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ เคน เพิ่งอายุแค่ 26 มีเวลาสร้างผลงานอีกนานมาก”

“ถ้าหาก เคน รักษาสภาพร่างกายให้ฟิตได้ตลอด เชื่อเถอะว่าเขาจะลงเล่นเป็นตัวจริงในทีมชาติไปอีกนานอย่างน้อย 7 ปีโน่นแหละ สำคัญคือมีหลายเกมที่ได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ระดับต่ำกว่ามาก ๆ รออยู่ทั้งแมตช์อุ่นเครื่อง แมตช์คัดเลือกยูโรฯ, บอลโลก ฯลฯ และยิ่งมีตัวจี๊ด ๆ อย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง คอยช่วยงานอยู่ด้วยนะ ยังไงก็ยิงกระจาย”

เบลเยียม ฟอร์มดุบุกถล่ม สกอตแลนด์ 4-0 คัดยูโร กลุ่ม ไอ

Football-5

การเเข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่ม ไอ คู่ระหว่างสกอตแลนด์ อันดับ 4 เปิดฮัมพ์เดน พาร์คต้อนรับการมาเยือนของ เบลเยียม จ่าฝูง

สกอตแลนด์ ฟอรืมไม่ดีแพ้มา 2 นัดติด เกมนี้ สตีฟ คลาร์ก กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย ดาวดังอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ , โรเบิร์ต สน็อดกราสซ์ และ แอนดี โรเบิร์ตสัน กัปตันทีม

เบลเยียม ของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ผลงานเยี่ยมชนะ 5 เกมติด นัดนี้วางหมากมาในระบบ 3-4-2-1 นำมาโดยแนวรุกอย่าง ดรีส์ เมอร์เทนส์ , เควิน เดอ บรอยน์ และ โรเมลู ลูกากู คอยผลิตสกอร์

นาทีที่ 10 เบลเยียม ได้ประตูนำก่อนรวดเร็วจากจังหวะโต้กลับ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลนิ่มๆ ให้ ลูกากู ที่วิ่งสอดมาพร้อมกัน ยิ่งด้วยซ้ายเข้าไปง่ายดาย

เบลเยียมหนีเป็น 2-0 ในนาที 24 เมื่อ เดอ บรอยน์ โยนบอลจากฝั่งขวาให้ โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังจอมเก๋าชาร์จระยะ 6 หลาตุงตาข่าย

สกอร์ไหลเป็น 3-0 ในนาที 32 เมื่อได้เตะมุม เดอ บรอยน์ คนเดิมทำแฮตทริกแอสซิสต์ด้วยการเปิดให้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ โขกเช็ดคานเข้าประตูไป ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง สกอตแลนด์ ได้ลุ้นก่อนจากฟรีคิกของ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ที่ปั่นด้วยซ้าย ทว่าเฉียดคานออกหลังไป

จากนั้นนาที 71 เป็นโอกาสของเบลเยียมบ้างเมื่อ เดอ บรอยน์ ทำชิ่งกับ เมอร์เท่นส์ ก่อนตั้งป้อมซัดด้วยขวาตรงเขตโทษ ทว่าบอลพุ่งเฉียดเสาออกหลังไป

อีก 11 นาทีถัดมา เบลเยียม มาได้เพิ่มเมื่อ ลูกากู เก็บบอลได้ก่อนม้วนแล้วจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมายิงแบบไม่ต้องจับ บอลพุ่งเสียบเสาไกลงามหยด

จบเกม เบลเยียม บุกชนะ สกอตแลนด์ 4-0 เก็บชัยชนะได้ 6 นัดติดต่อกันมี 18 คะแนนเต็ม ส่วนสกอตแลนด์มีเพียง 6 คะแนน

เยอรมัน บุกทุบ ไอร์แลนด์เหนือ 2-0 คัดยูโร กลุ่ม ซี

Football-4

การเเข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มซี เป็นการพบกันระหว่าง ไอร์แลนด์เหนือ เปิดสนามวินด์เซอร์ ปาร์ค ในเมืองเบลฟาสต์ ต้อนรับการมาเยือนของ เยอรมัน

ไมเคิล โอนีล กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามแนวรุกเป็น คอร์รี อีแวนส์, ไนออล แม็คกินน์ และ คอเนอร์ วอชิงตัน

ด้านทีมเยือนของ โยอาคิม เลิฟ วางหมากมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน ด้วยการใช้สามแนวรุกเป็น มาร์โก รอยส์, แซร์ช กนาบรี้ และ ติโม แวร์เนอร์

ผลปรากฏว่า นาที 22 เยอรมัน ก็เกือบได้จุดโทษเมื่อ มาร์เซล ฮัลสเต่นแบร์ก เปิดบอลจากซ้ายไปให้ ยูเลี่ยน บรันด์ท ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลโดนมือ จอนนี่ อีแวนส์ แต่ผู้ตัดสินมองไม่ทันเลยปล่อยให้เล่นต่อ ขณะที่ผู้เล่นเยอรมันพยายามประท้วง

นาที 40 เยอรมัน ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่อ มัทธิอัส กินเทอร์ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง โยนาธาน ทาห์ ลงเล่นแทน ก่อนจบครึ่งแรกไปแบบโนสกอร์

ครึ่งหลัง เยอรมัน มาได้ประตูที่ต้องการในนาที 48 ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ เติมขึ้นมาเปิดบอลทางฝั่งขวา กองหลังไอร์แลนด์เหนือเคลียร์ไม่ขาด บอลเลยไปถึง มาร์เซล ฮัลสเต่นแบร์ก แบ็กซ้ายจาก แอร์ไบ ไลป์ซิก ได้เอี้ยวตัววอลเล่ย์ส่งบอลย้อนเข้าเสาไกลสุดสวยเป็น 1-0

เยอรมัน น่าได้ประตูอีกลูกสุดๆ ในนาที 53 รอยส์ แตะบอลย้อนหลังให้ ติโม แวร์เนอร์ กดด้วยซ้าย บอลจะเสียบโคนเสาอยู่แล้วแต่ ไบลี่ย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ พุ่งปัดปลายมืออกหลังหวุดหวิด อีก 3 นาทีถัดมา รอยส์ ได้ยิงฟรีคิก แต่ก็ติดเซฟของ ไบลี่ย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์

ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+2 ทีมเยือนมาบวกลูกสองปิดกล่อง จากจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายทะลุช่องให้ กนาบรี้ หลุดไปยิงด้วยขวาอย่างเฉียบคม ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเยอรมันบุกมาชนะไป 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้มเท่ากับไอร์แลนด์เหนือ แต่แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มซี จากการมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าที่ +11 ต่อ +3

ฮอลแลนด์ ฮอตต่อเนื่อง ถล่ม เอสโตเนีย 4-0 คัดยูโร กลุ่มซี

football 1

การเเข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มซี เจ้าบ้านเอสโตเนีย เปิดบ้านพบกับ ฮอลแลนด์

เกมนี้ โรนัลด์ คูมัน จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 แยสเปอร์ ซิเลสเซน ลงเฝ้าเสา คู่กองหลัง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ จับคู่กับ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ แดนกลาง แฟรงกี้ เดอ ยอง, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เดวี พร็อพเพอร์ แนวรุก ไรอัน บาเบล, เมมฟิส เดอปาย และดาวรุ่งอย่าง ดอนเยลล์ มาเลน

ผลปรากฏว่า นาทีที่ 17 ฮอลแลนด์ ได้ประตูนำก่อน 1-0 เมื่อ ดาเล่ย์ บลินด์ เปิดบอลเรียดจากซ้ายเขตโทษ ไรอัน บาเบิล วิ่งเข้ายิงง่ายๆ เข้าไป เเละจบครึ่งเเรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ฮอลแลนด์ ได้ประตูนำ 2-0 ในนาที 48 เมื่อ เมมฟิส เดอปาย เปิดบอลสุดสวยจากฝั่งขวาให้ บาเบิล ตั้งคอโหม่งเน้นๆ เข้าไปสวยงาม

นาที 56 ฮอลแลนด์ เกือบได้อีกลูกในนาที 56 เมื่อ เดอปาย เปิดเตะมุมให้ ฟาน ไดค์ ลอยตัวโขกเต็มศีรษะ แต่บอลถากเสาออกหลังไปนิดเดียว

ฮอลแลนด์ มาได้ประตูนำ 3-0 ในนาที 76 มัทไธส์ เดอ ลิกท์ ตักบอลยาวไปให้ เดอปาย จับลงก่อนพลิกหนีตัวประกบแล้วยิงเล่นทางจากกรอบเขตโทษเข้าประตูไปอย่างสุดยอด

นาทีที่ 87 เมื่อ เมมฟิส เดอปาย โยนลูกฟรีคิกเข้ามาหน้าปากประตู จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม เทคตัวขึ้นโหม่งบอลตุงตาข่าย ฮอลแลนด์นำ 4-0

จบเกม ฮอลแลนด์ บุกมาเอาชนะ เอสโตเนีย 3-0 คว้า 3 คะแนนเก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนรั้งอันดับสาม ตามหลังเยอรมันและไอร์แลนด์เหนือ สองอันดับแรก 3 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ เอสโตเนียยังไม่มีคะแนน จมบ๊วยของกลุ่ม

ผลคู่อื่นๆ

กลุ่มอี

  • อาร์เซอร์ไบจัน เสมอ โครเอเชีย 1-1
  • ฮังการี แพ้ สโลวาเกีย 1-2

กลุ่มจี

  • ลัตเวีย แพ้ มาร์ซิโดเนีย 0-2
  • โปแลนด์ เสมอ ออสเตรีย 0-0
  • สโลวีเนีย ชนะ อิสราเอล 3-2

กลุ่มไอ

  • รัสเซีย ชนะ คาซัคสถาน 1-0
  • ซาน มาริโน แพ้ ไซปรัส 0-4
  • สกอตแลนด์ แพ้ เบลเยียม 0-4