post

เอาด้วยอีกคน “ดิ มาเรีย” จะยังไม่อำลาทีมชาติอาร์เจนตินา เล่นต่อในฐานะแชมป์โลก

อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ตกเป็นข่าว เปลี่ยนใจยังไม่อำลาทีมชาติ และต้องการจะรับใช้บ้านเกิดต่อไปในฐานะแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

สื่อกีฬาอาร์เจนตินา รายงานว่า อังเคล ดิ มาเรีย ปีกของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส จะยังคงลงเล่นให้กับ ทีมชาติอาร์เจนตินา ต่อไป

สำหรับ ดิ มาเรีย วัย 34 ปี มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ มาครองอย่างยิ่งใหญ่ และในตอนแรกเป็นที่เชื่อกันว่านี่คือทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขาในฐานะนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา

รายงานล่าสุดระบุว่า ดิ มาเรีย จะอยู่ช่วย อาร์เจนตินา ต่อไป อาจจะไม่ถึงฟุตบอลโลก 2026 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดาเป็นเจ้าภาพ แต่อย่างน้อยก็อาจช่วยทีมในศึกโคปา อเมริกา 2024 ที่ประเทศเอกวาดอร์ เป็นการสั่งลา

ทั้งนี้ ดิ มาเรีย ลงเล่นให้ ทีมชาติอาร์เจนตินา ไปแล้ว 129 นัด นับตั้งแต่ประเดิมสนามนัดแรกเมื่อปี 2008 พาทีมคว้าแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2008, โคปา อเมริกา 2021 และล่าสุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022

post

“โมร็อกโก” ฝาก 3 ประโยคเด็ด ก่อนเปิดศึกกับ “โครเอเชีย” นัดชิงที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022

“ใครว่าไร้ความหมาย” กุนซือโมร็อกโก เผย 3 ประโยคเด็ดปลุกใจลูกทีม ก่อนดวล โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงที่ 3

วาลิด เรกรากุย ผู้จัดการทีมชาติโมร็อกโก ให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวก่อนเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงอันดับ 3 ซึ่งจะพบกับ ทีมชาติโครเอเชีย ในคืนวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ แข่งขัน 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

แม้รอบชิงอันดับ 3 ของฟุตบอลโลก จะเป็นเกมที่ดูเหมือนว่าไม่มีความหมายในสายตาของใครหลายคน แต่ วาลิด เรกรากุย ผู้ทำให้ โมร็อกโก กลายเป็นชาติแรกจากแอฟริกาที่ทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ ก็หวังเอาชนะ “รองแชมป์เก่า” โครเอเชีย ให้ได้ในเกมนี้ เพื่อศักดิ์ศรีและความภูมิใจในฐานะตัวแทนของทวีป รวมถึงชาติมุสลิม

ด้านกุนซือแอฟริกันคนแรกที่คุมทีมผ่านเข้ามาถึงรอบตัดเชือก ฟุตบอลโลก ได้ฝาก 3 ประโยคเด็ดปลุกใจลูกทีมโมร็อกโกก่อนเกมว่า “เราต้องการให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปและได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศ มันยังมี 1 นัดให้เล่นอีก และเราก็อยากอยู่บนโพเดียม ผมเข้าใจว่าการจบอันดับ 3 เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการจบอันดับ 4 แต่ประเด็นของผมคือเราไปไม่ถึงรอบชิงชนะเลิศ เราต้องการเล่นนัดชิงในวันอาทิตย์ ไม่ใช่เล่นในวันพรุ่งนี้”

“แต่ผมบอกนักเตะว่า นี่คือเกมฟุตบอลโลกนัดที่ 7 ของเรา ถ้าคุณบอกแฟนบอลโมร็อกโกว่าเราจะลงเล่นเกมที่ 7 ในวันที่ 17 ธันวาคม พวกเขาคงภูมิใจ”

“โมร็อกโก อาจจะเคยเล่นฟุตบอลโลก 6 เกมในรอบ 20 ปี แต่ตอนนี้เราได้เล่น 6 เกมภายใน 1 เดือน มันประเมินค่าไม่ได้ มันเหมือนกับว่าเราได้เล่นฟุตบอลโลก 2 สมัยหรือมากกว่านั้น นั่นเป็นสิ่งที่สวยงามจากมุมมองของประสบการณ์”

post

สั่งห้าม !! ซาลาห์อดบู๊กับเลสเตอร์แม้จะตรวจโควิดแล้วผ่าน

โมฮาเหม็ด ซาลาห์

จะอดลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในเกมกับ เลสเตอร์ อยู่ดี ต่อให้ผลตรวจในรอบใหม่จะออกมาเป็นลบ เพราะกฎของ พรีเมียร์ลีก กำหนดว่าคนที่เคยมีผลตรวจเป็นบวกจำเป็นต้องกักตัวเอง 10 วันในตอนที่เดินทางมาถึงอังกฤษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนเก่งของ ลิเวอร์พูล จะอดช่วยทีมในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ต้นสังกัดมีคิวเปิดรัง แอนฟิลด์ เจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ต่อให้ผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบต่อไปของเขาจะออกมาเป็นลบก็ตาม เนื่องจากติดกฎการรับมือกับเชื้อร้ายของ พรีเมียร์ลีก เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซาลาห์ โดนตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระหว่างอยู่กับทีมชาติอียิปต์จนทำให้จำเป็นต้องรับการกักตัว ไม่นานมานี้ ฮุสซาม ฮอสนี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของประเทศอียิปต์เปิดเผยว่า ซาลาห์ จะเข้ารับการตรวจอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายนนี้ และเชื่อว่าผลตรวจจะออกมาเป็นลบ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่ได้แสดงให้เห็นถึงอาการติดเชื้อ ซึ่งนั่นทำให้มีการมองกันว่าถ้าผลตรวจในรอบใหม่เป็นลบแล้วนั้น เขาจะได้ลงช่วยทีมในเกมพบ เลสเตอร์

อย่างไรก็ตาม กฎของ พรีเมียร์ลีก กำหนดว่านักเตะทุกคนที่เคยมีผลตรวจเป็นบวกจำเป็นต้องกักตัวเองอย่างน้อย 10 วันแบบไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งนั้น นั่นหมายความว่าต่อให้ผลตรวจในวันที่ 19 พ.ย. นี้เป็นลบ และ ซาลาห์ ได้เดินทางกลับไปยัง ลิเวอร์พูล รวมถึงผ่านการตรวจที่สนามบิน เขาก็ต้องทำการกักตัวหลังจากนั้นอีก 10 วัน ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ลงเล่นอีกครั้ง

    นอกจากนี้ ซาลาห์ ต้องเกลี้ยกล่อมให้หน่วยงานรัฐบาลของสหราชอาณาจักรยอมรับฟังให้ได้ด้วยว่าที่ผ่านมาเขากักตัวกับทีมชาติอียิปต์เป็นอย่างดี เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินมาตรการที่เข้มงวดแบบที่ใช้กับประชาชนทั่วไป เพราะกฎของสหราชอาณาจักรกับกฎของ พรีเมียร์ลีก เป็นกฎที่แยกออกจากกัน ซึ่งกฎของสหราชอาณาจักรระบุว่าทุกคนที่มาจากต่างแดนจะต้องโดนกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ยกเว้นว่าคนๆ นั้นจะเป็นนักเตะจากต่างแดนที่รับการกักตัวกับทีมชาติมาเป็นอย่างดี

post

ดีขึ้นเท่าไหร่?เผยอันดับโลกทีมชาติไทยก่อนประกาศทางการ

Football-259

ฟุตตี้ แรงกิ้งส์ สื่อด้านการคำนวณอันดับโลก เปิดเผยว่าการชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในนัดล่าสุด จะช่วยทำให้ทีมชาติไทยมีอันดับขึ้นไปเป็น 109 ของโลก จากเดิม 115 ของโลก ส่วน เวียดนาม จะยังอยู่ที่ 97 ของโลกเหมือนเดิม

    ทีมชาติไทยจะมีอันดับโลกขึ้นไปเป็นที่ 109 ของโลก ในการจัดอันดับโลกอย่างเป็นทางการครั้งต่อไป หลังจากล่าสุดเอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 ในเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม จี เมื่อวันอังคารที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตามการเปิดเผยของ ฟุตตี้ แรงกิ้งส์ สื่อด้านการคำนวณอันดับโลก

    แต้มในการจัดอันดับโลกของ ฟีฟ่า จะคิดด้วยสูตรที่เอาค่าสัมประสิทธิ์ด้านความสำคัญของเกม (อย่างเช่น เกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกจะมีค่าสัมประสิทธิ์ที่ 25, เกมอุ่นเครื่องตามปฏิทินของฟีฟ่าจะมีค่าสัมประสิทธิ์ที่ 10 เป็นต้น) ไปคูณกับตัวเลขที่เกิดจากการเอาคะแนนของผลการแข่งขัน (ถ้าชนะจะได้ 3, ถ้าเสมอจะได้ 1 ส่วนถ้าแพ้จะได้ 0) ไปลบกับผลการแข่งขันที่น่าจะเป็นในตอนแรก (ตัวเลขนี้คิดจากปัจจัยหลายอย่าง อาทิเช่น ความแตกต่างระหว่าง 2 ทีม เป็นต้น) แล้วจากนั้นก็เอาไปบวกกับแต้มในช่วงก่อนลงเล่นอีกที

*ฟอร์แมตสูตรคำนวณคะแนน* คะแนนก่อนหน้าลงเล่น + ค่าสัมประสัมสิทธิ์ด้านความสำคัญของเกม x (ผลการแข่งขัน – ผลการแข่งขันที่คาดในตอนแรก) = คะแนนปัจจุบัน

    ทั้งนี้ ก่อนลงเล่นนัดล่าสุด ไทย อยู่ที่ 115 ของโลก จากการมี 1175.79 คะแนน (ไม่ได้อ้างอิงตามอันดับโลกปัจจุบันบนเว็บไซต์ของ ฟีฟ่า เนื่องจากอันดับบนเว็บไซต์ยังไม่ได้นับรวมเกมก่อนหน้านี้ที่ ไทย เสมอกับ คองโก 1-1 ในเกมอุ่นเครื่อง) ซึ่งการเอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่อยู่ในอันดับ 63 ของโลกได้ ก็จะทำให้ ไทย มีคะแนนเพิ่มขึ้น 16.95 คะแนน จนเป็น 1,192.74 คะแนน และมีอันดับดีขึ้น 6 อันดับ ขณะที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะตกไปเป็นอันดับ 67 ของโลก

    ขณะที่ เวียดนาม อีก 1 ชาติจากย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีคะแนนเพิ่ม 6.81 คะแนน จนทำให้เป็น 1,245 คะแนน และจะยังอยู่ที่ 97 ของโลกตามเดิม หลังจากนัดล่าสุดพวกเขาชนะ อินโดนีเซีย 3-1 ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก กลุ่มเดียวกับ ไทย ส่วน อินโดนีเซีย จะตกลง 1 อันดับจนไปเป็นที่ 171 ของโลก

    ด้าน ฟิลิปปินส์ ที่ในเกม ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เสมอกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้นั้น จะมีอันดับดีขึ้น 1 อันดับ จนเป็นที่ 126 ของโลก ส่วน จีน จะหล่นไป 2 อันดับ และกลายเป็นที่ 70 ของโลก

    สำหรับการประกาศอันดับโลกอย่างเป็นทางการของ ฟีฟ่า ครั้งต่อไปนั้น จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคมนี้

https://twitter.com/FootyRankings/status/1184107017738211329
post

“ธีรศิลป์-เอกนิษฐ์”คนละเม็ด!ตัดเกรดไทยเปิดบ้านเฉือนยูเออี 2-1

Football-258

หลังจากที่ผลการแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ของกลุ่ม จี เมื่อวันอังคารที่ 15 ต.ค.62 ผลปรากฏว่า ทีมชาติไทยของกุนซือ “อากิระ นิชิโนะ” ผงาดขึ้นรั้งจ่าฝูงกลุ่ม จี ได้สำเร็จหลังจากเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ยูเออี 2-1 จากผลงานของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา ชนิดที่แฟนๆบอลชาวไทยต่างประทับใจผลงานที่เล่นดีกว่าผู้มาเยือนชัดเจน

    โดยผลสอบของนักเตะทีมชาติไทยแต่ละคนที่ได้ลงเล่น มีดังนี้

    ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน “ไม่ค่อยมีจังหวะลูกเซฟอันตรายเท่าไหร่ มีเพียงแค่จังหวะที่เสียประตูเพียงครั้งเดียว แต่จังหวะนั้นก็หมดสิทธิ์เซฟจริงๆ ภาพรวมยังถือว่าทำหน้าที่ได้มาตรฐานเช่นเดิมสำหรับผู้รักษาประตูวัย 35 ปีรายนี้” 

    คะแนน : 6

    ธนบูรณ์ เกษารัตน์  “ยังมีจังหวะที่ถูกผู้เล่นยูเออี หนีประกบหลุดกับดักล้ำหน้าให้เห็นอยู่บ้าง แต่ยังดีที่ผู้เล่นยูเออีทำบอลลั่นออกไปเอง เช่นเดียวกับลูกที่เสียประตูที่ยืนประกบห่าง อาลี มับคูต จนถูกยืนโหม่งโล่งๆเข้าไปอย่างง่ายดาย”

    คะแนน : 6
 
    มานูเอล ทอม เบียรห์ “ยังมีจังหวะที่ช้าอยู่พอสมควร โดยในจังหวะที่เสียประตูเขายืนอยู่เสาแรกแต่กลับปล่อยให้บอลลอยข้ามไปเฉยๆ ส่วนในจังหวะที่มีโอกาสโหม่งโล่งๆช่วงครึ่งแรก ดันโหม่งหวิดไปโดน ไม่งั้นอาจมีลูกสองหนีห่างยูเออีก็เป็นได้”

    คะแนน : 5.5
 
    นิติพงษ์ เสลานนท์ “ถือว่าโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียวสำหรับแบ็คขวาจาก การท่าเรือ เอฟซี อีกทั้งยังทำแอสซิสต์ได้ 1 ลูกในจังหวะที่จ่ายข้ามกองหลังยูเออีให้กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ยิงโล่งๆ เรียกได้ว่าเป็นวันแจ้งเกิดของของแบ็คขวาสิงห์เจ้าท่าไปโดยปริยาย

    คะแนน : 7
 
    ธีราทร บุญมาทัน  “ยังคงโชว์ผลงานสมกับเป็นนักเตะเจลีก รักษาฟอร์มมาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม แถมมีลูกโยกหลอกนักเตะยูเออีในช่วงท้ายครึ่งหลัง จนเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลที่เข้าไปเชียร์ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต กันเลยทีเดียว”

    คะแนน : 6.5

    สารัช อยู่เย็น “สามารถคุมเกมแดนกลางได้เป็นอย่างดี คอยปัดกวาดคู่ต่อสู้ได้แทบจะอยู่หมัด แถมยังมีโอกาสทำประตูได้อีกด้วยจากจังหวะซัดเต็มข้อล่อเต็มแข้งในช่วงครึ่งแรก อย่างไรก็ดียังคงต้องเช็คอาการบาดเจ็บของเจ้าตัวหลังถูกหามเปลออกไปปฐมพยาบาลข้างสนามจนเล่นต่อไม่ไหว

    คะแนน : 6.5
 
    พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล “คอยซัพพอร์ตกับ สารัช อยู่เย็น ได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของเกมบุก และเกมรับ ที่ยังคงโชว์ผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่ายังคงสร้างมาตรฐานฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียวสำหรับมิดฟิลด์ตัวรับจาก สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 

    คะแนน : 6.5
 
    ศศลักษณ์ ไหประโคน  “เป็นวันที่ฟอร์มไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่ หลังได้รับโอกาสลงสนามในเกมนี้ บางจังหวะในการกระชากลากเลื้อยยังดูติดๆขัดๆ ทำให้ลงเล่นในแมตช์นี้ได้เพียง 60 นาทีเท่านั้น

    คะแนน : 5
    
    สุภโชค สารชาติ “ฟอร์มการเล่นอาจไม่ค่อยไฉไลเหมือนกับ 2 เกมที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก แต่ยังมีโอกาสพาบอลปั่นป่วนผู้เล่นยูเออีได้อยู่เหมือนกัน แต่ผลงานโดยรวมตลอด 90 นาทียังถือว่าไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากนัก

    คะแนน : 6
    
    เอกนิษฐ์ ปัญญา “เรียกได้ว่าเป็นแมตช์แจ้งเกิดของเจ้าบุ๊คก็ว่าได้ หลังเป็นคนที่จ่าย 1 ลูกให้กับ “เทพมุ้ย” โขกขึ้นนำ ก่อนจะเป็นคนยิงประตูชัยให้ไทยเอาชนะยูเออีได้สำเร็จ แน่นอนลูกยิงสำคัญลูกนี้ คงเป็นประตูเตรียมฉลองวันเกิดครบรอบ 19 ปีบริบูรณ์ของเจ้าตัว ที่จะเกิดในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ไปเลยทีเดียว

    คะแนน : 7.5
 
    ธีรศิลป์ แดงดา “การกลับมาของเจ้ามุ้ยทำให้รู้ว่า เขายังเป็นกองหน้าที่ทีมชาติไทยต้องมีจริงๆ แถมโหม่งประตูขึ้นนำยูเออีไปก่อนตั้งแต่ช่วงต้นขึ้นแรก ซึ่งเป็นการทาบสถิติยิงประตูเท่ากับ  “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ไปเป็นที่เรียบร้อย นอกนั้นผลงานโดยรวมถือว่าน่าประทับใจจริงๆ

    คะแนน : 7

    ผู้เล่นสำรอง

    ศิวกรณ์ เตียตระกูล “ลงมาเล่นแทน ศศลักษณ์ ไหประโคน ในนาทีที่ 60 อาจสร้างสรรค์บทบาทได้ไม่มาก แต่ก็มีลูกตั้งเตะที่ทำให้มีลุ้นได้เหมือนกัน

    คะแนน : 5.5
 
    นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม “ลงมาเล่นแทน สารัช อยู่เย็น ในนาทีที่ 86 ซึ่งเป็นช่วงท้ายเกมแล้ว จึงไม่สามารถให้คะแนนได้”

    ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา “ลงมาเล่นแทน นิติพงษ์ เสลานนท์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจึงไม่สามารถให้คะแนนได้”

post

สู้ตายแม้สถิติเป็นรอง! มุ้ย-อุ้มนำไทยบู๊ยูเออี จับตามับคูตตัวอันตราย

Football-257

ทีมชาติไทย เตรียมจัดเต็มรับ ยูเออี โดย อากิระ นิชิโนะ เผยมีขุมกำลังฟูลทีมให้เลือกใช้งาน ซึ่งคาดว่า 2 แข้งประสบการณ์สูงอย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน จะนำทัพลุยกับผู้มาเยือนที่มี อาลี มับคูต เป็นตัวอันตราย ขณะที่สถิติถือว่าอาคันตุกะจากตะวันออกกลางเหนือกว่าหลายช่วงตัว ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ยิงสด ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่ 15 ต.ค.นี้

    ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เตรียมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี นัด 3 ด้วยการเปิดสนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต รับการมาเยือนของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

    อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเตะ 24 ชั่วโมงว่า นักเตะที่มีปัญหาความฟิตก่อนหน้านี้ สามารถกลับมาซ้อมได้เต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งรวมไปถึง ธีราทร ที่เจ็บจนชวดเกมอุ่นเครื่องที่เสมอ คองโก 1-1 ก่อนหน้านี้ ขณะที่ พรรษา เหมวิบูลย์ ปราการหลังตัวหลักถ้าไม่เต็มร้อย ก็อาจมีการขยับให้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ลงไปเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ เหมือนในเกมกระชับมิตร

    ในรายของ สุภโชค สารชาติ น่าจะได้กลับมาประจำการทางริมเส้นฝั่งซ้ายตามเดิม ด้านขวามีโอกาสสูงที่จะใช้ เอกนิษฏ์ ปัญญา ซึ่งทั้งสองคนสามารถวิ่งสลับกันได้ ขณะที่ ธีรศิลป์ ที่พังตาข่ายได้ในนัดก่อนพร้อมลุยต่อ ส่วนแดนกลางอัด พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับ สารัช อยู่เย็น ปักหลักคอยฟัด ด้าน นิติพงษ์ เสลานนท์ มีลุ้นยึดตำแหน่งแบ๊กขวาต่อไป แต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังต้องแย่งมือหนึ่งกับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 

    ด้าน เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือดัตช์ที่ประกาศกร้าวจะพายูเออีมาเก็บ 3 แต้ม อาจให้ โอมาร์ อับดุลระห์มาน ที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อยนั่งสำรองไปก่อน แต่ว่า อาลี มับคูต เจ้าของดาวซัลโวคนใหม่ที่จำนวน 54 ประตู ในนามทีมชาติแซงอดีตหัวหอกรุ่นพี่อย่าง อัตนาน อัล ทัลยานี่ ถึง 2 ลูก จากการลงสนาม 54 เกม พร้อมปักหลักในแดนหน้าเช่นเดิม

    สำหรับผลงานที่เคยพบกันมาของทั้งสองทีม ปรากฏว่า พบกันมาแล้ว 13 ครั้ง ไทย ชนะแค่ 2 เสมอ 4 และแพ้ 7 ยิงได้ 13 เสีย 19 ประตู

post

เวย์น รูนี่ย์ เชื่อ ถ้า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้คุมอังกฤษยุคซุปตาร์คงกวาดได้ทุกแชมป์

Football-86

เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า หากเมื่อสักสิบกว่าปีก่อนที่ ทีมสิงโตคำราม เต็มไปด้วยแข้งฝีเท้าเยี่ยมอย่างตนเอง และผองเพื่อนอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด หรือว่า เดวิด เบ็คแฮม แล้วมีกุนซือเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงจะคว้าแชมป์ได้อย่างมากมาย จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อ 13 กันยายน 2562

        สำหรับ เวย์น รูนี่ย์ ต้องถือว่าเป็นหนึ่งในตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ หลังจากที่เขาติดทีมชาติไปกว่า 120 นัด และยิงได้มากถึง 53 ประตู ทว่าด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมนี้กลับไม่เคยนำพาเขา และเหล่าเพื่อน ๆ แข้งซุปตาร์ไปได้ไกลเลยในเกมระดับชาติ ซึ่งเจ้าตัวมองว่าหากมีกุนซือเก่ง ๆ คุมทีมชาติในยุคนั้น คงจะดีไม่น้อยทีเดียว

        เวย์น รูนี่ย์ กล่าวว่า “ผมนั่งดูเกมทีมชาติแล้วรู้สึกยอดเยี่ยมมาก ๆ ผมตื่นเต้นจริง ๆ เวลาเราได้รับชัยชนะ เด็ก ๆ เล่นกันดีมาก ๆ ด้วย”

        “แล้วลองย้อนมองกลับไปเมื่อสัก 10 กว่าปีที่แล้วสิ ว่ากันว่าเราเป็นทีมชาติที่เต็มไปด้วยสตาร์ดัง ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอหน์ เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, พอล สโคลส์, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิ่ล โอเว่น หรือตัวผมเอง”

        “ซึ่งถ้าเราได้กุนซือที่มีฝีมืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาคุมทีมนะ ผมว่าเราได้ทุกแชมป์ที่ลงเล่นแน่ ๆ”

post

บิ๊กอ๊อด พอใจผลงาน นิชิโนะ พร้อมให้อิสระในการยกระดับ ทีมชาติไทย เต็มที่

Football-85

        “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้การสนับสนุนรวมถึงให้อิสระในการตัดสินใจแก่ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ อย่างเต็มที่ จากรายงานของ Fair เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562

        เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น พา ทีมชาติไทย ประเดิมศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก สองนัดแรก ได้อย่างสวยงาม หลังเสมอกับ เวียดนาม 0-0 และบุกไปชนะ อินโดนีเซีย 3-0 เก็บ 4 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม จี ในขณะนี้

        พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “เท่าที่ได้คุยเบื้องต้นกับทาง นิชิโนะ ได้มอบหมายงานให้กับสตาฟฟ์โค้ชทุกคนไว้หมดแล้ว ก็คงจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งระหว่าง นิชิโนะ กับ สมาคมฯ และ ทีมงานเพราะว่าก่อน และหลังการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการจะมีการสรุป หารือ และก็เตรียมความพร้อม เพื่อให้การทำงานไม่มีอุปสรรค”

        “สมาคมฯ พร้อมที่จะทำหน้าที่พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ ในการอำนวยความสะดวกให้กับโค้ช ทั้งนี้ทั้งนั้น หวังว่าทีมชาติไทย จะสร้างรอยยิ้มและความสุข ด้วยการผ่านเข้ารอบต่อไป ของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก”

        “การทำงานของ นิชิโนะ สองนัดแรก ผมไม่ได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเราให้อิสระแก่เขาในการทำงาน แต่เราจะพยายามสอบถามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ สองแมตช์ที่ผ่านมา ถือว่าน่าพอใจกับหนึ่งแต้มที่เสมอ เวียดนาม และสามแต้มที่เราสามารถเอาชนะ อินโดนีเซีย”

        “เชื่อว่าขณะนี้ นิชิโนะ และทีมงาน รวมถึงนักกีฬา ก็เริ่มที่จะปรับเข้าหากัน เริ่มรู้จักกัน และกันมากขึ้น หลังจากนี้ ไม่ว่าทีมใดที่เราจะต้องเจอ เราจะไม่กลัวเพราะเรามั่นใจในตัวนักกีฬา”

        “จากฟอร์มการเล่น และความเข้าใจ การประสานงานก็มีทีมเวิร์กสูง ยิ่งเมื่อได้รับเทคนิค แท็กติก จาก นิชิโนะ ก็สามารถทำได้ หากเขาสามารถทำได้ตามแท็กติกโค้ช ผลงานก็จะออกมาดี”

        สำหรับ ทีมชาติไทย เตรียมทำการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 โซนเอเชีย รอบคัดเลือก กลุ่มจี นัดที่ 3 พบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่สนาม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี

‘บัคดิม’ อวยพร ‘ชนาธิป’ ประสบความสำเร็จกับคอนซาโดเล่ (ภาพซ้อมล่าสุด)

Football-70

หลังจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพิ่งจะบินจากอินโดนีเซีย กลับไปที่ญี่ปุ่นทันที หลังสวมหมายเลข 10 ในเกมที่ช่วยทีมชาติไทย ไปเยือน อินโดนีเซีย ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี นัดสอง เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

‘ชนาคุง’ มีคิวช่วย คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดบ้านสนามซัปโปโร โดม รับการมาเยือน เวกัลตะ เซนได ทีมอันดับ 15 ของตารางในวันเสาร์ที่ 14 ก.ย. 62 นี้ ตามเวลาไทย 12.00 น.

ล่าสุดเจ้าตัวได้ลงซ้อมกับเพื่อนๆ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ณ สนามมิยาโนซาวะ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ อิรฟาน บัคดิม ดาวเตะทีมชาติอินโดนีเซีย ที่เพิ่งจะดวลแข้งกันนั้น ได้อวยพรก่อนที่ “เจ” จะกลับไปยังญี่ปุ่นด้วย

ดาวเตะลูกครึ่งฮอลแลนด์ เคยค้าแข้งกับ  “คอนซะ” ในปี 2015-2016 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นพี่ของ “ชนาคุง” ได้อวยพรให้ ชนาธิป ยกระดับทีมรวมทั้งประสบความสำเร็จในการพาสโมสรไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก หนแรกของประวัติศาสตร์ให้ได้

Football-71 Football-72 Football-73

“เจ็ตโด้” สี่เม็ด! โปรตุเกส บุกถลุง ลิธัวเนีย 5-1 นำจ่าฝูงกลุ่มบี คัดยูโร

Football-63

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มบี ที่สนามแอลเอฟเอฟ สเตเดี้ยม ระหว่าง ลิธัวเนีย ลงสนามพบ โปรตุเกส

โปรตุเกส ที่ในเกมนี้มาในระบบ 4-3-3 รุย ปาทริซิโอ ลงเฝ้าเสา คู่กองหลัง โชเซ ฟอนเต้ จับคู่กับ รูเบน ดิอาส แดนกลาง บรูโน แฟร์นานเดส, วิลเลียม คาร์วัลโญ และ รูเบน เนเวส แนวรุก แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ชูเอา เฟลิกซ์

ผลปรากฏว่า โปรตุเกส ได้ประตูนำก่อน 1-0 ตั้งแต่ 7 นาทีแรก จากจุดโทษ ของ  คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

ลิทัวเนีย ตามตีเสมอ 1-1 ได้ในนาที 28 จาก วีเตาตาส อันดรีอุสเควีเชียส โขกส่งบอลลงพื้นเด้งชนเสาเข้าประตูไป เเละจบครึ่งเเรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาที 62 จากจังหวะที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ได้ลากบอลมากดด้วยขวา บอลพุ่งเรียดแต่ทว่า เอร์เนสตาส เช็ตคุส นายประตูลิธีวเทีย รับบอลกระฉอกก่อนบอลจะเด้งโดนไหล่เจ้าตัวเข้าประตูแบบน่าเจ็บใจ โปรตุเกสออกนำ 2-1

สกอร์ไหลเป็น 3-1 นาที 65 โรนัลโด้ วิ่งสอดมาแประยะ 3 หลาเข้าไปง่ายๆ กลายเป็นแฮตทริกของดาวเตะวัย 34 ปี

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มากดประตูที่ 4 ของตัวเองในนาที 76 แบร์นาร์โด้ ซิลวา คนเดิม จ่ายบอลให้ โรนัลโด้ ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยิงทันทีแบบไม่ต้องจับ

ท้ายเกม โปรตุเกสมาได้ประตูปิดกล่องจาก วิลเลียม คาร์วัลโญ จบเกม โปรตุเกสบุกมาเอาชนะลิธัวเนีย 5-1 เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนตามหลังจ่าฝูงยูเครน 5 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด