
4. ความเป็นไปของเกม

แฟรงค์ แลมพาร์ด ยังคงศรัทธาในบรรดานักเตะดาวรุ่งและใช้รูปแบบการเล่น 3 เซ็นเตอร์แบ็คเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันหลังจากถล่ม วูล์ฟส 5-2 ในเกมที่ผ่านมาโดยมี ฟิกาโย โทโมรี เดบิวต์ให้ทีมและ เคิร์ท ซูมา ออกสตาร์ทโดยมี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กับ มาร์คอส อลอนโซ ขนาบข้าง
แผนการดังกล่าวดูดีอยู่ช่วงหนึ่งทว่าพวกเขาขาดทีเด็ดทีขาดเปลี่ยนเกม แม้การเปลี่ยนเอา โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ลงสนามแทนที่ ซูมา ก็ไม่ได้ช่วยให้จังหวะสุดท้ายของพวกเขาดีขึ้นเท่าใดนัก นอกจากนี้ แลมพาร์ด ยังต้องเสีย เมสัน เมาท์ ตั้งแต่ช่วงต้นเกมจากอาการบาดเจ็บอีกด้วย
3. วิลเลียน โดดเด่นที่แดนหน้า

วิลเลียน กลายเป็นนักเตะที่สร้างสรรค์เกมให้กับ สิงห์บลู ได้โดดเด่นที่สุดในค่ำคืนนี้เมื่อสามารถสร้างปัญหาให้กับแนวรับของ บาเลนเซีย ได้หลายต่อหลายครั้งเพียงแค่จังหวะสุดท้ายของเจ้าตัวที่ไม่ลงตัวเท่านั้น
2. อีก 1 แข้งเดี้ยงของ สิงห์บลู

การบาดเจ็บของ เมสัน เมาท์ ทำให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด มีลูกทีมคีย์แมนอยู่ในห้องพักฟื้น 4 รายเข้าไปแล้วเมื่อรวมกับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอเมอร์สัน พัลมิเอรี และ เอ็นโกโล ก็องเต้ ซึ่งน่าเป็นห่วงสำหรับ สิงห์บลู เมื่อพวกเขามีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
1. ความมั่นใจผิดที่ผิดเวลา

รอสส์ บาร์คลีย์ ถูกส่งลงสนามเพียงแค่ 7 นาทีก่อนที่เขาจะรับอาสายิงลูกจุดโทษในช่วงท้ายเกมในสถานการณ์ที่ทีมต้องการประตูเพื่อตีเสมอแม้ว่า วิลเลียน ที่เล่นได้อย่างเข้าฝักในเกมนี้จะแสดงท่าทีต้องการทำหน้าที่ดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งดูเหมือนว่า แลมพาร์ด อาจต้องจัดการคนรับหน้าที่ดังกล่าวก่อนที่จะมีประเด็นอย่างที่มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้กับเพื่อนร่วมลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว