การเเข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มซี เป็นการพบกันระหว่าง ไอร์แลนด์เหนือ เปิดสนามวินด์เซอร์ ปาร์ค ในเมืองเบลฟาสต์ ต้อนรับการมาเยือนของ เยอรมัน
ไมเคิล โอนีล กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามแนวรุกเป็น คอร์รี อีแวนส์, ไนออล แม็คกินน์ และ คอเนอร์ วอชิงตัน
ด้านทีมเยือนของ โยอาคิม เลิฟ วางหมากมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน ด้วยการใช้สามแนวรุกเป็น มาร์โก รอยส์, แซร์ช กนาบรี้ และ ติโม แวร์เนอร์
ผลปรากฏว่า นาที 22 เยอรมัน ก็เกือบได้จุดโทษเมื่อ มาร์เซล ฮัลสเต่นแบร์ก เปิดบอลจากซ้ายไปให้ ยูเลี่ยน บรันด์ท ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลโดนมือ จอนนี่ อีแวนส์ แต่ผู้ตัดสินมองไม่ทันเลยปล่อยให้เล่นต่อ ขณะที่ผู้เล่นเยอรมันพยายามประท้วง
นาที 40 เยอรมัน ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่อ มัทธิอัส กินเทอร์ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง โยนาธาน ทาห์ ลงเล่นแทน ก่อนจบครึ่งแรกไปแบบโนสกอร์
ครึ่งหลัง เยอรมัน มาได้ประตูที่ต้องการในนาที 48 ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ เติมขึ้นมาเปิดบอลทางฝั่งขวา กองหลังไอร์แลนด์เหนือเคลียร์ไม่ขาด บอลเลยไปถึง มาร์เซล ฮัลสเต่นแบร์ก แบ็กซ้ายจาก แอร์ไบ ไลป์ซิก ได้เอี้ยวตัววอลเล่ย์ส่งบอลย้อนเข้าเสาไกลสุดสวยเป็น 1-0
เยอรมัน น่าได้ประตูอีกลูกสุดๆ ในนาที 53 รอยส์ แตะบอลย้อนหลังให้ ติโม แวร์เนอร์ กดด้วยซ้าย บอลจะเสียบโคนเสาอยู่แล้วแต่ ไบลี่ย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ พุ่งปัดปลายมืออกหลังหวุดหวิด อีก 3 นาทีถัดมา รอยส์ ได้ยิงฟรีคิก แต่ก็ติดเซฟของ ไบลี่ย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+2 ทีมเยือนมาบวกลูกสองปิดกล่อง จากจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายทะลุช่องให้ กนาบรี้ หลุดไปยิงด้วยขวาอย่างเฉียบคม ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเยอรมันบุกมาชนะไป 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้มเท่ากับไอร์แลนด์เหนือ แต่แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มซี จากการมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าที่ +11 ต่อ +3