ดร.อนงค์วรรณ เทพสุทิน ประธานสุโขทัย เอฟซี มั่นใจลูกทีมบุกเก็บแต้มถิ่นชัยนาท ฮอร์นบิลได้แน่ แม้ไร้”จอห์น บาจโจ้”กัปตันทีมที่ติดโทษแบน เตรียมเรียกเจ้าตัวคุย ให้ระวังเรื่องการทำผิดกติกาเรื่อยเปื่อย หวั่นโดนใบเหลืองซวยถึงโทษแบน เหมือนกับครั้งนี้ที่โดนใบเหลืองจากการถอดเสื้อดีใจ สะสมเหลืองจนโดนแบน

“ค้างคาวไฟ”สุโขทัย เอฟซี ในเกมโตโยต้า ไทยลีก 2019 เกมที่ 26 ต้องออกไปเยือนสนามเขาพลองสเตเดี้ยม พบกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน เวลา 19.00 น.

ดร.อนงค์วรรณ เทพสุทิน ประธานสโมสรสุโขทัย เอฟซี เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมว่า ยอมรับว่าทีมขาดนักเตะตัวหลัก อย่าง จอห์น บาจโจ้ กัปตันทีม ซึ่งติดโทษแบน หลังจากที่ได้ใบเหลืองสะสมจนต้องโดนแบน จากการแสดงความดีใจแล้วถอดเสื้อในสนาม ซึ่งจากนี้ต้องคุยกับบาจโจ้ให้ระวังการทำผิดกติกาซึ่งทำให้ได้ใบเหลืองและมีผลกระทบต่อทีมในช่วงท้ายฤดูกาล ที่ต้องการแต้มเพื่อหนีห่างโซนตกชั้น

อย่างไรก็ตามตนเชื่อมั่นในโค้ชเบ๊ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เฮดโค้ชของทีมที่จะวางแผนและนำวิธีการเล่นที่สามารถทดแทนนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามและเก็บชัยชนะในเกมนัดนี้มาฝากให้แฟนบอลสุโขทัย เอฟซีให้ได้

“เกมระหว่างชัยนาท ฮอร์นบิล ที่หลายคนมองว่าเป็นเกมพี่เกมน้อง แต่เรายืนยันว่าจะสู้เต็มที่ไม่มีอ่อนข้อ เพราะการเก็บแต้มในเกมนี้มีผลสำคัญกับความอยู่รอดของทีมสุโขทัย เอฟซี มาก ทั้งนี้ขอแรงใจจากแฟนบอลสุโขทัย ให้ช่วยตามเชียร์ทีมด้วย เพราะการแข่งขันของฤดูกาลนี้ยังเหลืออีกหลายเกม แม้อันดับของทีมจะอยู่ในโซนอันตราย แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่ในอันดับนี้ต่อไป ดังนั้นขอให้ช่วยเชียร์โดยไม่ถอดใจ” ดร.อนงค์วรรณ กล่าว

โหมโรงก่อนบิ๊กแมตซ์โตโยต้า ไทยลีก2019 เสาร์นี้ เอสซีจี เมืองทอง เปิดบ้านรับการมาเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด งานนี้สะเทือนถึงรองจ่าฝูงอย่าง สิงห์ เชียงราย ที่มีโอกาสกลับมาแซงนำอีกครั้งหากผลการแข่งขันที่เอสซีจี สเตเดี้ยมเป็นใจ เรามาดู 5 เรื่องฮอตที่น่าสนใจก่อนเกมคู่นี้กันสักนิด

1. เอสซีจี เมืองทอง เจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีกปีนี้เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน โดย 19 นัดที่ห่ำหั่นกันในลีกสูงสุดเมืองไทย “ผลเสมอ” ออกเยอะที่สุดถึง 9 นัด ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าชัยไป 8 นัด และ เอสซีจี เมืองทอง ชนะได้ 2 นัด , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยิงได้ 24 ประตู , เอสซีจี เมืองทอง ทำได้ 14 ประตู

2. จาก 19 นัดที่เจอกันมาในช่วง 10 ปี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เล่นในบ้าน 10 นัด ชนะ เอสซีจี เมืองทอง ได้ 5 นัด , เสมอ 4 นัด และแพ้ในบ้าน 1 นัด , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำได้ 13 ประตู , โดน เอสซีจี เมืองทอง บุกมายิง 7 ประตู ส่วน เอสซีจี เมืองทอง เล่นในบ้าน 9 นัด ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ครั้งเดียว , เสมอ 5 นัด และแพ้ในบ้าน 3 นัด , เอสซีจี เมืองทอง ทำได้ 7 ประตู , โดน บุรีรัมย์ บุกมายิง 11 ประตู

3. อเล็กซานเดร กามา กุนซือเอสซีจี เมืองทอง เกมนี้จะได้กลับไปต่อกรกับอดีตทีมเก่าอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่เคยพาทีมคว้า 8 แชมป์ในช่วงปี2014-16 ก่อนที่กุนซือแซมบ้ารายนี้จะไปคุมทีม สิงห์ เชียงราย กลับมาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ถึง 3 นัดจาก 6 เกมในรอบปี2017-18 โดยเป็นการชนะในเอฟเอคัพ 2 นัดพร้อมกับก้าวไปเป็นแชมป์ทั้ง 2 หน และการเอาาชนะได้ในไทยลีกอีก 1 นัดด้วย เรียกได้ว่า ค่อยข้างถูกโฉลกกับการคุมทีมเจอกับอดีตต้นสังกัดเก่าเหลือเกิน

4. บิ๊กแมตช์ที่เอสซีจี เมืองทอง จะเปิดบ้านบู๊ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกโตโยต้า ไทยลีก2019 ค่ำวันเสาร์นี้ เป็นเกมที่ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ของบรรดา “ตาอยู่” อย่าง สิงห์ เชียงราย ที่2 และ การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3 ด้วย … ก่อนเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงมี 48 แต้ม , สิงห์ เชียงราย รองฝูง 47 แต้ม , การท่าเรือ เอฟซี ที่3 มี 43 แต้ม หากว่าเกมที่เอสซีจี สเตเดี้ยม จ่าฝูงไม่สามารถบุกเก็บชัยกลับบ้าน ก็จะทำให้ สิงห์ เชียงราย มีโอกาสแซงหน้าขึ้นฝูงอีกครั้งก็มี เช่นเดียวกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ลุ้นจี้ติดบัลลังค์เข้าไปอีกในช่วงโค้งสุดท้าย แต่หากบุรีรัมย์บุกชนะ อันดับตารางในสัปดาห์นี้จะยังเหมือนเดิมต่อไป

5.ผู้ตัดสินเกมนี้จะไม่ใช่ “เปาเบิร์ด”ชัยฤกษ์ งามสม เชิ้ตดำฟีฟ่าคนดังแน่นอน เพราะเขาพึ่งมีประเด็นในเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ตราด เอฟซี 1-0 จากจังหวะดราม่าลูกเล่นเร็วไม่ตรงจุดของทีมเยือน อีกทั้ง”เปาเบิร์ด”ก็พึ่งเป่าเกมคู่นี้ในเลกแรกมาด้วย ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือน เอสซีจี เมืองทอง 1-0 เมื่อวันที่ 26 พ.ค.62

ฟุตบอลลูกกลมๆ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้ง 3 หน้า อยู่ที่ว่า ใครจะครบเครื่องมากกว่ากัน เอสซีจี เมืองทอง VS บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โตโยต้า ไทยลีก2019 เสาร์ที่ 14 ก.ย.62 ที่เอสซีจี สเตเดี้ยม 19.00 น. ห้ามพลาด