มิดฟิลด์ชื่อดังชาวโปรตุกีส ยืนยันไม่ปิดโอกาสย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ หลังมีข่าวสองทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก กำลังจ้องตะครุบตัวไปร่วมทัพ

เรนาโต ซานเชซ ห้องเครื่องวัย 24 ปีของลีลล์ กลับมาเป็นนักเตะเนื้อหอมอีกครั้ง หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลที่ผ่านมา กระทั่งช่วยให้ต้นสังกัดก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ลีก เอิง มาครองได้สำเร็จ

ซึ่งหลังจากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว ทำให้มีข่าวว่า 3 ทีมดังของพรีเมียร์ลีกทั้ง อาร์เซนอล วูล์ฟแฮมป์ตัน และลิเวอร์พูล ต่างอยากได้ตัวไปร่วมทัพ เพื่อยกระดับแนวรุกให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ทำให้ล่าสุด เรนาโต เปิดใจผ่านสื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง L’Equipe ว่า พร้อมแล้วสำหรับการย้ายไปสู่ลีกชั้นนำของยุโรปอีกครั้ง หลังเคยล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ระหว่างที่อยู่กับทีมเสือใต้แห่งเมืองเบียร์ สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่ง

“ตอนผมอยู่กับบาเยิร์น ผมยังไม่พร้อมที่จะลงเล่นให้กับสโมสรที่ใหญ่แบบนั้น เพราะผมยังเด็กและอ่อนประสบการณ์ แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้ว ผมเข้าใจฟุตบอลและมีประสบการณ์ที่มากขึ้น ผมรู้ว่าควรเล่นกับสโมสรระดับชั้นนำยังไง และนั่นคือการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน”

“ผมได้คุยกับเอเย่นต์แล้ว และเขาบอกว่ามีทีมไหนติดต่อมาบ้าง แต่ผมไม่สามารถบอกคุณได้ในตอนนี้หรอก ผมบอกได้แค่ว่าตัวเองพร้อมแล้ว และหากมีข้อเสนอเข้ามา ผมก็พร้อมที่จะทำให้เต็มที่อย่างแน่นอน” เรนาโต กล่าว

สำหรับ เรนาโต ซานเชซ ได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 8 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าว เล็งคว้าตัวห้องเครื่องฝีเท้าฉกาจ เจ้าของค่าตัวทะลุ 2 พันล้านมาร่วมทัพ

วันที่ 17 พ.ย. 64 สื่อชื่อดังจากแดนกระทิงดุ รายงาน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังพิจารณาคว้าตัว มิเกล เมริโน กองกลางทีมชาติสเปนของ เรอัล โซเซียดัด สโมสรในศึก ลา ลีกา สเปน มาสู่ถิ่นแอนฟิลด์

ทั้งนี้ เยอร์เกน คลอป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยังคงมองหากองกลางคนใหม่มาร่วมทัพ เพื่อแทนที่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ที่ย้ายไปอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง โดยเดิมที่เขามี จู๊ด เบลลิงแฮม ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นเป้าหมายหลัก แต่ด้วยค่าตัวที่สูงเกินไปทำให้เวลานี้ หงส์แดง หันมาให้ความสนใจ เมริโน เป็นพิเศษ

สำหรับ เมริโน วัย 25 ปี ถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ เรอัล โซเซียดัด ลงเล่นไปแล้ว 17 นัด รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ยิงไปแล้ว 3 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ มีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดนำเป็นจ่าฝูง ลา ลีกา สเปน อยู่ในปัจจุบัน และมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 51.4 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,262 ล้านบาท

“สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้งกุนซือหนุ่มชาวอังกฤษ เข้ามารับงานคุมทีมเรียบร้อยแล้ว โดยเป้าหมายแรกคือการพาทีมดิ้นหนีตกชั้นให้ได้

สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษเป็นอย่างมาก หลังโดนกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย เข้ามาเทคโอเวอร์ด้วยมูลค่าที่สูงถึง 300 ล้านปอนด์

ท่ามกลางข่าวลือที่ว่าเจ้าของทีมรายใหม่ พร้อมทุ่มเงินก้อนโตเพื่อดึงกุนซือระดับหัวกะทิ และนักเตะชื่อดังหลายราย เข้ามายกระดับทีมให้ขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของอังกฤษอีกครั้ง

แต่ล่าสุด กลับกลายเป็น เอ็ดดี ฮาว กุนซือชาวอังกฤษวัย 43 ปี ที่ได้รับการแต่งตั้ง ให้เข้ามาทำหน้าที่กุนซือคนใหม่ เพื่อแทนที่ของ สตีฟ บรูซ ภายใต้สัญญา 2 ปีครึ่ง หรือจนถึงช่วงซัมเมอร์ของปี 2024

ซึ่ง ฮาว กล่าวผ่านเว็บไซต์สโมสรว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้เป็นทำหน้าที่ผู้จัดการทีม สโมสรซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งนี่คือโอกาสอันยอดเยี่ยมในอาชีพการเป็นโค้ช ผมรู้สึกกระตือรือร้น ที่จะได้พบกับนักเตะในสนามซ้อม และเริ่มต้นทำงานกับทีมโดยเร็วที่สุด”

“นอกจากนี้ ผมอยากจะขอบคุณเจ้าของทีม สำหรับโอกาสในครั้งนี้ รวมถึงอยากขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การหนุนหลังทีมอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งผมตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ที่เราจะได้ก้าวเดินไปด้วยกันในครั้งนี้”

สำหรับ เอ็ดดี ฮาว จะประเดิมสนามคุมทีมครั้งแรก ด้วยการเปิดบ้านรับมือเบรนท์ฟอร์ด ในเกมพรีเมียร์ลีกวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 22.00 น. ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ก

“ฟาบริซิโอ โรมาโน” เหยี่ยวข่าวดัง ออกมายืนยันแล้วว่า “อันโตนิโอ คอนเต้” กุนซือชาวอิตาเลียนตอบตกลงคุม “ท็อตแนม ฮอตสเปอร์” ต่อจาก “นูโน เอสปิริโต ซานโต” แล้ว

“อันโตนิโอ คอนเต้” ผู้จัดการทีมชาวอิตาลี ตอบตกลงคุม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ต่อจาก “นูโน เอสปิริโต ซานโต” เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังอย่างแรง

ทั้งนี้ “อันโตนิโอ คอนเต้” จะได้สัญญาที่จะมีระยะเวลาไปจนถึงเดือน มิถุนายนปี 2023 โดยจะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในวันนี้และนั่นจะทำให้ข้อตกลงเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในที่สุด โดยจะมี “คริสเตียน สเตลลินี” เข้ามาช่วยงานในฐานะมือขวา

สำหรับ “อันโตนิโอ คอนเต้” เคยคุมทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาแล้วกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ได้อย่างละ 1 สมัยด้วยกัน