post

วิเคราะห์บิ๊กแมตช์ “ลิเวอร์พูล” ปะทะ “เลสเตอร์” ศึกพรีเมียร์ลีก

Football-246

“หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ คืนนี้ (5 ต.ค.) เวลา 21.00 น.

ความเคลื่อนไหวศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ประจำวันเสาร์ที่ 5 ต.ค. เกมไฮไลต์อยู่ที่สนามแอนฟิลด์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 เริ่มแข่ง 21.00 น. 

เกมนี้ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ตั้งเป้าพาทีมเก็บชัยชนะในลีก 8 นัดติดต่อกัน เพื่อเก็บ 3 คะแนนและทำแต้มหนี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไป เกมนี้ต้องลุ้นว่า โจเอล มาติป จะฟิตทันหรือไม่ ถ้าไม่ไหวก็เป็น โจ โกเมซ คุมแนวรับคู่กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ส่วน 3 ประสานแนวรุกทั้ง ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พร้อมล่าตาข่าย

ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเลสเตอร์ ซิตี้ เกมลีกนัดที่แล้วระเบิดฟอร์มโหด ถล่มนิวคาสเซิล 5-0 ความมั่นใจสูงลิบ คราวนี้บุกแอนฟิลด์หวังมีแต้มกลับไปแน่นอน แถมได้ข่าวดี เจมส์ แมดดิสัน พร้อมลงปั้นเกมรุก มี เจมี วาร์ดี คอยลั่นสกอร์

สถิติพบกัน 5 ครั้งหลังสุดในพรีเมียร์ลีก: ลิเวอร์พูล ชนะ 3 ครั้งเสเตอร์ ชนะ 1 ครั้ง เสมอกัน 1 ครั้ง

วิเคราะห์: แมตช์นี้น่าดูมาก เป็นบอลเกมรุกทั้งสองทีม เกมนี้ถ้าลิเวอร์พูลไม่สามารถส่ง โจเอล มาติป ลงสนามได้ มีปัญหาแน่นอนเพราะ โจ โกเมซ ฟอร์มไม่ดีในในนัดล่าสุด แถม วาร์ดี ของเลสเตอร์ก็ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ให้ ฟาน ไดค์ แบกคนเดียวเหนื่อยแน่ อย่างไรก็ตามเกมนุกของหงส์แดงยังไว้ใจได้เสมอ ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ แมดดิสัน กลับมาทำให้แนวรุกโหดขึ้นกว่าเดิม ส่วนเกมรับก็อยู่ในฟอร์มที่ดี คาดว่าโอกาสจบลงที่ผลเสมอมีสูงมาก

ทำนายผลแข่ง: ลิเวอร์พูล เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2

post

รองเลขาเลสเตอร์เผยโอกาส’ชนาธิป’ลุยพรีเมียร์ฯ มีมากน้อยแค่ไหน

Football-221

รองเลขาธิการสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันการมาค้าแข้งในลีกอังกฤษของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในอนาคตเป็นเรื่องที่ลำบากมาก ชี้ปัญหาใหญ่คือเรื่องวีซ่า แถมทีมชาติไทยไม่ได้อยู่ในท็อป 70 ของโลกด้วย เผยแต่ยังสามารถไปเล่นในลีกยุโรปที่ไม่ใช่แดนผู้ดีได้แบบไร้ปัญหา

        คุณภุชงค์ มัสยวานิช รองเลขาธิการสโมสรและผู้จัดการโครงการ Fox hunt ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาพูดถึงความน่าจะเป็นของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมรกเกอร์ของสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ว่าจะมีโอกาสย้ายมาค้าแข้งในลีกประเทศอังกฤษหรือไม่ 

         ทางรองเลขาธิการสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวฟุตบอลสยามถึงเรื่องดังกล่าวว่า “คือฝีมือเท่าที่เห็นน้องเจเล่น ก็ฝีมือเทคนิคดีถึงเขาจะตัวเล็กแต่เดี๋ยวนี้นักฟุตบอลเรื่องไซส์ตัวไม่มีปัญหา ถ้าเทคนิคถึง ฉลาดด้วย ไปเล่นที่ไหนก็ได้ แต่ที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่าเรื่องวีซ่าคือเรื่องใหญ่ เพราะหากทีมชาติไทยไม่ได้อยู่ในท็อป 70 ของโลก โอกาสที่คนที่จะเล่นอังกฤษยาก แต่ยุโรปสามารถเล่นได้ แต่อังกฤษเรื่องวีซ่า เรื่องเวิร์คเพอร์มิทจะลำบาก”

        ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า อุปสรรคของนักเตะไทยที่จะมายุโรป ปัญหาใหญ่สุดคืออะไร “จริงๆเรื่องวินัยก็เรื่องหนึง แต่ถ้าฝีมือสามารถมาถึงที่นี่แล้ววินัยก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่มันไม่ง่าย อย่างหลังย้ายมาแล้วก็ต้องมีเวลาปรับตัว บางทีได้เล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้างก็ต้องสู้ คือต้องสู้จนถึงนาทีสุดท้าย บางทีมาถึงปุบไม่ได้เล่นก็เข้าในว่าไกลบ้าน คิดถึงบ้านอาจจะทำให้ท้อ แต่อย่างแรกเรื่องวินัย เรื่องความเข้าใจเกม ทักษะ เทคนิค ความคล่องแคล่วว่องไว ความยืดหยุ่นของร่างกายซึ่งคนไทยไม่มีปีญหา”

        “สุดท้ายอย่างแรกทีมชาติไทยต้องขึ้นท็อป 70 ให้ได้ แล้วมันจะเปิดโอกาสให้นักเตะไทย หรือไม่ก็ต้องไปค้าแข้งที่ยุโรปประเทศอื่นก่อนที่ไม่ใช่อังกฤษ แล้วสัก 2-3 ปีก็บรูฟตัวเองให้ได้และถึงมาอังกฤษ แต่เรื่องวีซ่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดจริงๆครับ”

post

“แรชฟอร์ด” ซัดโทษคว้าชัย!!! “แมนฯ ยู” เปิดบ้านเฉือนชนะ “เลสเตอร์ ซิตี้” 1-0 ขยับไปรั้งอันดับ 4 ของตาราง

Football-94

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019/20 วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด สเตเดี้ยม เฉือนเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 1-0

โดยเกมนี้ครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจุดโทษจังหวะที่ ชักลาร์ โซยุนซู ไปทำฟาวล์ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในเขตโทษ ผู้ตัดสินดูภาพจาก VAR และชี้ให้เป็นจุดโทษก่อนที่ แรชฟอร์ด จะสังหารเองไม่พลาด นาทีที่ 8 จากนั้นนาทีที่ 30 เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะยิงไกลของ เบน ชิลเวลล์ แต่ ดาบิด เด เคอา นายทวารมือกาวพุ่งปัดทิ้งข้ามคานไปได้ จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

ครึ่งหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ พยายามเร่งเครื่องตีเสมอ โหมบุกแต่เจาะไม่เข้า ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสลุ้นบวกสกอร์เพิ่มเหมือนกัน แต่ไม่มีประตูเกิดขึ้น

จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ขยับไปรั้งอันดับ 4 ชั่วคราวมี 8 คะแนนจาก 5 นัด ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ มี 8 แต้มเท่าเดิมและแพ้เป็นเกมแรกของฤดูกาล

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, แอชลี่ย์ ยัง – เนมานย่า มาติช (เฟร็ด น.67), สกอตต์ แม็คโทมิเนีย์ – อันเดรส เปไรร่า, ฆวน มาต้า (ทาฮิธ ชอง น.70), ดาเนี่ยล เจมส์ (อักเซล ดวนเซเบ่ น.90+1) – มาร์คัส แรชฟอร์ด

เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนคู, เบน ชิลเวลล์ – วิลฟรีด เอ็นดิดี้ – เดมาไร เกรย์ (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.68), ยูริ ตีเลม็องส์, ฮัมซา ชาวด์รี่ (อาโยเซ่ เปเรซ น.57), เจมส์ แมดดิสัน – เจมี่ วาร์ดี้

Football-95
Football-96
Football-97
Football-98
Football-99