post

แรชฟอร์ดฮีโร่เบิ้ล! แมนยูย้ำแค้นเบียดเชลซีลิ่วรอบ8ทีม คาราบาวคัพ

Football-279

มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิง “ปีศาจแดง” สวมบทฮีโร่เหมาคนเดียว 2 ประตูพาทีมบุกเชือด เชลซี 2-1 หยุดความร้อนแรงของทัพ “สิงห์บลูส์” เฮ 3 เกมรวดในทุกรายการ ลอยลำเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายสำเร็จ ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) คืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซี พาทีมเข้ารอบนี้ หลังชนะกริมสบี้ 7-1 ก่อนชนะเบิร์นลี่ย์ 4-2 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 7 นัดติด

    ทางด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด พาทีมเข้ารอบนี้ หลังชนะจุดโทษรอชเดล ก่อนชนะนอริช ซิตี้ 3-1 ในเกมล่าสุด เป็นชัยชนะ 2 นัดติด

    ครึ่งแรกผ่านมา 10 นาทีรูปเกมยังค่อนข้างอึดอัดเล่นแบบรัดกุมด้วยกันทั้งคู่แต่เป็น “สิงห์บลูส์” ที่ครองบอลดีกว่านิดหน่อย ส่วนทาง “ปีศาจแดง” มาเสียใบเหลืองเร็วจากจังหวะ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เสียบอันตรายใส่ มาเตโอ โควาซิช

    นาทีที่ 13 “ปีศาจแดง” เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ แดเนี่ยล เจมส์ เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาเฉียดเสาไปนิดเดียว

    แต่แล้วนาทีที่ 24 “ปีศาจแดง” มาได้ลูกจุดโทษอีกแล้วจากจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ่ ไปเบียด แดเนี่ยล เจมส์ ร่วงลงไปกองกับพื้น ก่อนเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด รับหน้าที่สังหารคราวนี้ไม่พลาด เชลซี 0 แมนฯ ยูไนเต็ด 1

    ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีที่ 35 เป็นเกมที่แฟนบอลทั้งสองทีมค่อนข้างอึดอัดโอกาสยิงประตูมีน้อยเน้นไปที่การสู้กันในแดนกลางมากกว่า โดยเฉพาะ เจ้าถิ่นยังซัดไม่ตรงกรอบซักครั้ง

    นาทีต่อมาเป็น เจสซี่ ลินการ์ด รับบอลจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด หน้ากรอบเขตโทษก่อนลองปั่นโค้งด้วยขวาแต่บอลเบาไปเข้ามือ วิลลี่ กาบาเยโร่ รับไว้ไม่ยาก

    หมดครึ่งเวลาแรก เชลซี 0 แมนฯ ยูไนเต็ด 1

    ครึ่งหลังนาทีที่ 50 “สิงห์บลูส์” พลาดโอกาสทิงตีเสมอจากจังหวะขึ้นเกมทางริมเส้นฝั่งซ้าย มาร์กอส อลอนโซ่ ก่อนปาดเข้ากลางให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ยิงผิดเหลี่ยมบอลไหลผ่านหน้าประตูออกหลังเหลือเชื่อ

    2 นาทีต่อมาเจ้าถิ่นโหมหนักเป็น แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ พยายามทิ้งตัวสกัดบอลแต่โชคร้ายมาเข้าทาง มาร์ค กูเอฮี ยืนหวดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษแต่ยังดีมี เฟร็ด ตามมาบล็อคช่วย “ปีศาจแดง” เอาไว้ได้ทัน

    นาทีที่ 57 “สิงห์บลูส์” เริ่มดีกว่าชัดเจนเป็นจังหวะทิ้งบอลยาวของ คริสเตียน พูลิซิช ให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดตามน้ำบอลข้ามคานออกไปนิดเดียว

    โหมกระหน่ำอยู่นานสุดท้ายนาทีที่ 61 เจ้าถิ่นตามตีเสมอสำเร็จจากบอลยาวของ วิลลี่ กาบาเยโร่ หวดมาเข้าทาง มิชี่ บาตชูอายี่ โซโล่เดี่ยวจากครึ่งสนามเบียด แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก่อนยิงเลียดเสียบเสาสุดสวย เชลซี 1 แมนฯ ยูไนเต็ด 1

นาทีที่ 73 “ปีศาจแดง” ทะยานออกนำอีกครั้งจากลูฟฟรีคิกระยะร่วม 30 หลาของ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมาสับเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งส่ายเสียบใต้คานงามหยด เชลซี 1 แมนฯ ยูไนเต็ด 2

    ก่อนหมดเวลา 10 นาที เชลซี เกือบตีเสมออีกครั้งจากลูกยิงด้วยซ้ายในเขตโทษของ มาร์กอส อลอนโซ่ บอลไปติดเซฟ เซร์คิโอ โรเมโร่ หลุดออกหลังไป

    ช่วงท้ายเกม “ปีศาจแดง” เกือบบวกสกอร์เพิ่มจากลูกปั่นโค้งของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

    จบเกม เชลซี 1 แมนฯ ยูไนเต็ด 2 เป็นลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ย้ำแค้นลอยลำผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

    เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – รีซ เจมส์, คัวร์ท ซูม่า, มาร์ค กูเอฮี, มาร์กอส อลอนโซ่ – มาเตโอ โควาซิช, บิลลี่ กิลมัวร์ (เมสัน เมาท์ น.70), จอร์จินโญ่ – คริสเตียน พูลิซิช (เปโดร โรดริเกซ น.70), มิชี่ บาตชูอายี่ (แทมมี่ อับราฮัม น.78), คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย

    ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด  

    แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) : เซร์คิโอ โรเมโร่ – วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (อ็องโตนี มาร์กซิยาล น.66), แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์กอส โรโฮ – อารอน วาน-บิสซาก้า, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์, เฟร็ด – เจสซี่ ลินการ์ด (อันเดรียส เปเรร่า น.67) – แดเนี่ยล เจมส์, มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอชลี่ย์ ยัง น.80)

    ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา