“หลุยส์ ซัวเรซ” หาที่ลงได้แล้ว หลังไม่ประสบความสำเร็จในการย้ายไปค้าแข้งที่อิตาลีกับ “ยูเวนตุส” ก่อนที่ “บาร์เซโลน่า” จะตอบตกลงขายดาวยิงทีมชาติอุรุกวัยให้กับทีมคู่แข่งร่วมศึกลา ลีกา สเปน

วันที่ 23 ก.ย. 63 บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา สเปน ตกลงปล่อย “หลุยส์ ซัวเรซ” ไปอยู่กับ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด คู่แข่งร่วมลีกแล้ว

หลังจากที่เจ้าตัวไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ “โรนัลด์ คูมัน” กุนซือคนใหม่ และสโมสรก็เห็นด้วยที่จะโละกองหน้าวัย 33 ปี ออกจากถิ่นคัมป์ นู

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ซัวเรซ ตกลงรายละเอียดส่วนตัวกับ ยูเวนตุส ทีมแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องการขอสัญชาติอิตาลี เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้โควตาผู้เล่นนอกอียูที่มีจำกัดในลีกสูงสุดของเมืองมักกะโรนี เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าพบการทุจริตในการสอบภาษาอิตาลี เพื่อยื่นเรื่องทำพาสปอร์ตขอสัญชาติ ซึ่งอาจดำเนินการให้เสร็จสิ้นไม่ทันปิดตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้

แม้ตอนแรก โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์ซา จะไม่อยากให้ศูนย์หน้าทีมชาติอุรุกวัยย้ายไปอยู่กับทีมคู่แข่งใน ลา ลีกา สเปน แต่หลังจากที่มีการนัดพบกับตัวแทนของ ซัวเรซ ซึ่งขู่ว่าจะยื่นเรื่องฟ้องสโมสร หากบังคับให้นักเตะฉีกสัญญาที่เหลืออยู่ 1 ปี เพื่อบีบให้ย้ายทีมออกไปตามที่ต้องการ

ล่าสุด บีบีซี รายงานว่า “ตราหมี” จะจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กน้อยให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ในจำนวนไม่เกิน 4 ล้านยูโร (150 ล้านบาท) ตามเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ในสัญญาของ ซัวเรซ เช่น โบนัสจากการพาทีมเข้ารอบในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ขณะที่ ซัวเรซ เองก็ยินดีที่จะรับค่าเหนื่อยจาก แอต.มาดริด ปีละ 15 ล้านยูโร (562 ล้านบาท) ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจากที่ บาร์ซา จ่ายให้เขา

นั่นหมายความว่า ซัวเรซ จะปิดฉาก 6 ปีกับ “เจ้าบุญทุ่ม” หลังย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2014 โดยยิงไปทั้งสิ้น 198 ประตู จากการลงเล่น 283 นัด พาทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 4 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลกอีก 1 สมัย

สื่อดังออกมาแฉถึงตัวการสำคัญ ที่ทำให้แข้งตัวหลักอย่าง “ลิโอเนล เมสซี” ต้องการย้ายออกจากทีมบาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้

วันที่ 26 ส.ค. 63 สื่อดังของอาร์เจนตินา ได้ออกมาตีข่าวว่า “โรนัลด์ คูมัน” ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า คือตัวการสำคัญที่ทำให้ “ลิโอเนล เมสซี” ต้องการย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู ในช่วงซัมเมอร์นี้

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาแทบจะทุกสื่อดังของหลายประเทศ ระบุว่า ลิโอเนล เมสซี วัย 33 ปี ได้แจ้งกับ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลนา แล้วว่าต้องการย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ทันที โดยเป็นการขอยกเลิกสัญญาที่จะสามารถทำให้เขาย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว

ล่าสุด รายงานข่าวจากอาร์เจนตินา แฉบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง โรนัลด์ คูมัน กับ เมสซี ซึ่งถือเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ เมสซี ตัดสินใจที่จะอำลาทีม

โดยทาง คูมัน ได้กล่าวถึง เมสซี่ ว่า “สิทธิพิเศษของคุณกับทีมนั้นจบลงแล้ว คุณต้องทำทุกอย่างเพื่อทีม ผมจะไม่ยืดหยุ่นให้อีกต่อไป คุณต้องคิดถึงทีมเป็นหลัก”

“โรนัลด์ คูมัน” เดินทางมาถึง “บาร์เซโลน่า” แล้ว รอเปิดตัวเป็นกุนซือคนใหม่อย่างเป็นทางการ ด้านประธานสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งสเปนยืนยันเตรียมแต่งตั้งไม่เกินสัปดาห์นี้ พร้อมพูดถึงอนาคตของ “ลิโอเนล เมสซี” ด้วย

วันที่ 19 ส.ค. 63 “โรนัลด์ คูมัน” เดินทางถึงท่าอากาศยานบาร์เซโลน่า เอล ปรัต ในเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 63 ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาดักรอเป็นจำนวนมาก

แต่กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์คนปัจจุบันไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนเดินตรงไปขึ้นรถที่มารอรับ คาดว่าจะมุ่งหน้าไปยังสโมสรบาร์เซโลนา เพื่อจัดการเรื่องรายละเอียดส่วนตัวในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนรับงานคุมทีม “เจ้าบุญทุ่ม” แทน “กีเก เซเตียน” ที่เพิ่งถูกปลด หลังจากแพ้ บาเยิร์น มิวนิค แบบหมดสภาพ 2-8 ตกรอบ 8 ทีมในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

ขณะเดียวกัน “โฆเซป มาเรีย บาร์โตเมว” บอสใหญ่ของสโมสรบาร์เซโลน่า ได้ออกมาเปิดเผยว่า “คูมัน คือ คนที่เราเลือกแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของเราในฤดูกาลหน้า” โดยคาดว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้

ส่วนกระแสข่าวลือที่ว่า ลิโอเนล เมสซี ยอดกองหน้ากัปตันทีมอาจจะอำลาสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้ บาร์โตเมว ก็ตอบว่า “เมสซี ต้องการปิดฉากอาชีพค้าแข้งที่บาร์ซา ซึ่งเขาได้พูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และผมก็ได้คุยกับ คูมัน ก่อนได้ข้อสรุปว่า เมสซี คือเสาหลักในแผนงานของเรา เขายังมีสัญญาจนถึงปี 2021 ซึ่งผมก็ได้คุยกับ เลโอ (เมสซี) และคุณพ่อของเขามากขึ้นในช่วงหลัง เขาเป็นเบอร์หนึ่งของโลก และไม่ต้องสงสัยว่าแผนงานใหม่ของ คูมัน จะต้องมี เมสซี อยู่ในนั้น”

นอกจากนี้ บอสใหญ่บาร์ซ่า ยังพูดถึงกระแสการล้างบางผู้เล่นตามข่าวที่ออกมาในระยะหลังว่า “ที่ผ่านมา ผมตัดสินใจที่จะให้โอกาสกับผู้เล่นในเจเนอเรชั่นนี้อีก 1 ปีไปแล้ว แต่ตอนนี้อาจถึงเวลาที่จะต้องเริ่มการปฏิรูปทีมใหม่ ซึ่งมันอาจต้องใช้งบประมาณพอสมควร แต่สถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้รายได้ของสโมสรลดลง ดังนั้น เราจำเป็นต้องลดตัวเลขในบัญชีเงินเดือนลงบ้าง เพื่อให้มีงบในการดึงผู้เล่นใหม่เข้ามา”

บาร์เซโลน่า เปิดเผยว่าหลังจบฤดูกาลนี้พวกเขาน่าจะโกยรายได้เข้าคลังของทีมได้ 1.047 พันล้านยูโร จนจะถือเป็นสถิติในโลกกีฬา แถมพวกเขาจะยังทำรายได้แตะหลัก 1 พันล้านยูโรเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ด้วย

     บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมาว่าพวกเขาคาดว่าจะทำรายได้หลังจบฤดูกาล 2019-20 ได้ถึง 1.047 พันล้านยูโร (ประมาณ 35,598 ล้านบาท)

    “อาซูลกราน่า” เพิ่งเปิดเผยเรื่องสภาพการเงินของทีม ซึ่งในฤดูกาล 2018-19 พวกเขาทำรายได้ไป 990 ล้านยูโร (ประมาณ 33,660 ล้านบาท) และมันก็ถือเป็นปีงบประมาณที่ บาร์เซโลน่า มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย

    อย่างไรก็ตาม ในงานแถลงข่าวดังกล่าว บาร์เซโลน่า ยังคาดการณ์ล่วงหน้าด้วยว่าในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า พวกเขาจะกวาดรายได้เข้าสโมสรได้ถึง 1.047 พันลานยูโร โดยที่ บาร์เซโลน่า บอกว่ามันจะทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ทำรายได้ต่อ 1 ปีได้สูงที่สุดเป็นสถิติของวงการกีฬาเช่นกัน

    นอกจากนี้ มันก็จะถือว่า บาร์เซโลน่า ทำรายได้ต่อ 1 ปีได้ทะลุ 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 34,000 ล้านบาท) ได้เร็วกว่าที่บอร์ดบริหารของยอดทีมแห่งถิ่น คัมป์ นู ตั้งเป้าเอาไว้ด้วย เพราะตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะโกยรายได้ต่อ 1 ปีได้ถึงหลักดังกล่าวหลังจบฤดูกาล 2020-2021

    ทั้งนี้ ถึงแม้ในช่วงซัมเมอร์นี้ บาร์เซโลน่า จะทุ่มเงินก้อนโตไปกับการดึงนักเตะหลายคนมาร่วมทีม อย่างเช่น เฟรงกี้ เดอ ยอง และ อ็องตวน กรีซมันน์ เป็นต้น แต่คนใหญ่คนโตของ บาร์เซโลน่า ก็คาดว่าพวกเขาจะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเหนื่อยด้านกีฬาโดยรวมลดลง 3 เปอร์เซ็นต์ พอถึงเวลาประกาศการเงินในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า และจะมีรายได้จากการขายกับปล่อยยืมนักเตะเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ด้วย หลังจากที่ทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นกาตาลุนย่าปล่อยนักเตะออกไปหลายราย อย่างเช่น อันเดร โกเมส, มัลคอม และ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น เป็นต้น