“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าว เตรียมกระชากหนึ่งในแข้งดาวเด่นของลีกดังยุโรป มาเสริมความแข็งแกร่ง

“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหย่แห่งสึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเดินหน้าคว้าตัว ฟาเบียน รุยซ์ กองกลางทีมชาติสเปนของ นาโปลี มาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้

เป็นที่เข้าใจกันว่า เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการเสริมทัพในตำแหน่งกองกลาง โดยมี แฟรงกี เดอ ยอง ของบาร์เซโลนา เป็นเป้าหมายหลัก แต่ดีลก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าที่ควร เนื่องจากตัวนักเตะไม่อยากย้ายทีม

และตามรายงานล่าสุดระบุว่า แมนยูฯ เริ่มหันไปมองเป้าหมายอื่นๆ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ รวมไปถึง รุยซ์ วัย 26 ปี ที่เหลือสัญญากับ นาโปลี อีกแค่ 11 เดือน ทำให้ทีมดังแห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อาจตัดใจขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ดีกว่าที่จะรอเสียไปแบบฟรีๆ ซึ่งทาง ยูไนเต็ด ได้เริ่มมีการติดต่อไปหาเอเย่นต์ของนักเตะแล้ว

สำหรับ รุยซ์ ลงเล่นให้ นาโปลี ไป 38 นัด รวมทุกรายการในฤดูกาลที่ผ่านมา ซัดไป 7 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น นิวชาบี เนื่องจากมีสไตล์การเล่นคล้ายกับ ชาบี เอร์นานเดซ ตำนานกองกลางของบาร์เซโลนานั่นเอง

สาวก “อัซซูรา” เฮกันเสียงดังสนั่นทุ่งเมืองเนเปิลส์ หลังได้รับการอุทธรณ์โทษแพ้บายยูเวนตุสเมื่อเดือนตุลาคม แถมยังได้แต้มที่ถูกยึดคืนกลับมาอีกด้วย

วันที่ 23 ธ.ค.63 หลังจาก นาโปลี ถูกฝ่ายจัดการแข่งขันกัลโช เซเรีย อา ปรับแพ้ ยูเวนตุส ไป 0-3 เนื่องจากโดนปัญหาไวรัสโควิด-19 เล่นงาน จนไม่สามารถเดินทางออกไปเยือนทีมม้าลายได้ ในเกมลีกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

แถมยังถูกตัดแต้มเพิ่มอีก 1 คะแนน ในข้อหาไม่ยอมเดินทางไปแข่งขันตามโปรแกรม

ซึ่งถึงแม้ว่า นาโปลี จะพยายามโต้แย้งด้วยเหตุผลเกี่ยวกับเหตุสุวิสัย แต่สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (FIGC) และศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา ยังยืนตามคำตัดสินเดิม

แต่ล่าสุด คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งอิตาลี (โคนี : CONI) ในฐานะองค์กรด้านกีฬาสูงสุดแห่งอิตาลี ได้มีคำสั่งให้อุทธรณ์โทษดังกล่าวของนาโปลี ทำให้ทีมดังแห่งเมืองเนเปิลส์ จะได้กลับมาทำการแข่งขันใหม่กับ ยูเวนตุส อีกครั้ง พร้อมทั้งได้แต้มที่ถูกยึดไป กลับคืนมาด้วยเช่นกัน

ทำให้ นาโปลี ขยับแซง โรมา กลับมายืดตำแหน่งอันดับ 3 ของตารางคะแนนกัลโช เซเรีย อา ได้อีกครั้ง ด้วยการมี 24 แต้มเท่ากับ ยูเวนตุส และ โรมา แต่ประตูได้เสียดีกว่า แถมแข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด

ธีส์ บลีไมสเตอร์ เอเยนต์ของ ซน ฮึง มิน ดาวเตะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ยอมรับว่านักเตะในความดูแลอาจเปิดโอกาสไป นาโปลี ในอนาคต

    กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ ซัดไปแล้ว 70 ประตูให้กับ ไก่เดือยทอง โดยเป็นกำลังสำคัญของทีมมาโดยตลอดรวมถึงพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้ว และนับตั้งแต่ย้ายสู่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เมื่อปี 2015 ซน ฮึง มิน ก็สร้างชื่อให้กับตัวเองจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก 

    อย่างไรก็ตาม เอเยนต์ส่วนตัวได้ออกมาบอกถึงความเป็นไปได้ที่ ซน จะย้ายไปค้าแข่งในลีก อิตาลี  “ผมยังไม่เคยนำผู้เล่นไป นาโปลี เลย แต่ก็อยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกันนะ เพราะ มาราโดน่า เป็นนักเตะที่ผมชื่นชอบ ซึ่งเขาก็เล่นให้นาโปลี”

"เมื่อก่อนผมเคยคุยกับ นาโปลี และ ผู้บริหาร ของพวกเขามาบ้าง - แล้วถ้าหาก ซน ไป นาโปลี ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? ในโลกฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ซน ชอบ อิตาลี, อาหารอิตาลี และผู้คนอิตาลี"

"ผมรู้ว่ามันไม่ง่ายที่จะพาเขาออกจาก ท็อตแน่ม เพราะ ค่าตัวของเขาน่ะสูงมากแต่วันหนึ่งใครจะไปรู้ล่ะ?"

5. เมเร็ต สวมบทพระเอก

อเล็กซ์ เมเร็ต งัดเซฟสำคัญช่วยทีมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะกับช็อตที่ช่วยชีวิตของ คาสตอส มาโนลาส ที่ทำบอลลั่นไปเข้าทางของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้สกอร์ยังคงเป็น 0-0 ก่อนที่ นาโปลี จะได้ 2 ประตูในช่วงท้ายเกมคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุด

4. อาเดรียน ไม่น้อยหน้า

แม้ว่า นาโปลี จะเป็นฝ่ายได้ 2 ประตูในช่วงท้ายเกมทำให้พวกเขาเอาชนะไปได้แต่การป้องกันที่โดดเด่นของ อาเดรียน ทำให้พวกเขายังสามารถรักษาสกอร์ไว้ที่ 0-0 อยู่ได้กว่า 80 นาทีโดยเฉพาะการบินปัดมือเดียวช็อตแท็ปอินของ เมอร์เทนส์ น่าเสียดายที่เจ้าตัวต้องถูกลูกจุดโทษเล่นงานต่อด้วยความผิดพลาดของแนวรับที่มอบของขวัญให้กับ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

3. สถิติของ หงส์แดง

ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมแชมป์เก่าในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สโมสรแรกที่ปราชัยในนัดประเดิมสนามของซีซันใหม่ต่อจาก เอซี มิลาน ในฤดูกาล 1994/95

หงส์แดง ยังสามารถรักษาคลีนชีทได้เพียง 1 เกมจาก 8 นัดที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้อีกด้วย

2. เมอร์เทนส์ วูบวาบ

ดรีส์ เมอร์เทนส์ พังประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่พวกเขาจะคว้าชัยได้สำเร็จ เจ้าตัวยังเป็นคงฉกลูกจ่ายของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก่อนผ่านต่อให้ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ยิงตอกฝาโลงรวมทั้งยังมีส่วนกับการสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของ หงส์แดง ตลอดทั้งเกมนี้อีกด้วย

1. ซาลาห์ ไร้ประตูในเกมเยือนอีกครั้ง

โอกาสของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้มีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ยเมื่อต่างฝ่ายต่างระวังหลังบ้านกันสุดฤทธิ์โดย ซาลาห์ ไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทีมได้ดีพอเมื่อเทียบกับมาตรฐานของเจ้าตัวเมื่อเจอกับแนวรับของ นาโปลี ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถยิงประตูในการเล่นเป็นทีมเยือนมา 3 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้วในฤดูกาลนี้