post

แฟนเชลซีเซ็ง!สโมสรไม่รีบต่อสัญญาอับราฮัม,เจมส์

Football-293

สื่ออังกฤษปูด แทมมี่ อับราฮัม และ รีซ เจมส์ ยังต้องรออีกนานกว่าจะได้ต่อสัญญากับ เชลซี แม้เพื่อนๆ หลายคนได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ไปแล้วก็ตาม

เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับการที่จะจับ แทมมี่ อับราฮัม และ รีซ เจมส์ สองผู้เล่นดาวรุ่ง เซ็นสัญญาฉบับใหม่

ตามรายงานจาก เดอะ เทเลกราฟ สื่อชั้นนำเมืองผู้ดี เมื่อวันอังคารที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เมื่อเร็วๆ นี้ ฟิคาโย่ โทโมรี่, เมสัน เมาท์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ต่างทยอยกันจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ เชลซี และก็คาดกันว่า อับราฮัม กับ เจมส์ น่าจะได้รับสัญญาฉบับใหม่จากต้นสังกัดในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ ระบุว่า ทั้งสองยังไม่ได้ใกล้เคียงกับการได้ต่อสัญญา ถึงแม้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ก็ตาม

สำหรับฤดูกาลนี้ อับราฮัม กลายเป็นกองหน้าตัวหลักของ “สิงห์บลูส์” โดยลงเล่นไปแล้ว 24 นัด ทำได้ 13 ประตู ส่วน เจมส์ ลงเล่น 14 นัด ทำได้ 2 ประตู

post

“ซาฮา” ยิงเซฟแต้ม คริสตัล พาเลซเปิดรังเจ๊าไบรจ์ตัน 1-1

Football-292

“วิลฟรีด ซาฮา” ซัดประตูกู้ชื่อ ช่วยให้ “ดิ อีเกิลส์” เปิดบ้านแบ่งแต้มกับไบรจ์ตันฯ ไปแบบสุดมันท้ายเกม ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนท์

การแข่งขันศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2019-20 ในเกมมันเดย์ไนท์ คืนวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นการพบกันในของสองทีมในโซนกลางตาราง “ดิ อีเกิลส์” คริสตัล พาเลซ อันดับ 10 พบกับ ไบรจ์ตัน อันดับ 13

เปิดฉากครึ่งแรกไปได้ 6 นาที เป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้ทักทายก่อน เมื่อ อีฟส์ บิสซูมา มีโอกาสตั้งป้อมซัดด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

จากนั้นแม้ไบรจ์ตันจะเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า แต่กลับยังไม่มีโอกาสจบสกอร์ที่เฉียบคม ทำให้ครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังนาทีที่ 50 คริสตัล พาเลซ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ คริสเตียน เบนเตเก กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บอลข้ามหัวนายทวารไบรจ์ตันไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

แต่ถัดมาอีกแค่ 4 นาที ไบรจ์ตันก็พังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ ปาสกาล กรอสส์ เบิ้ลบอลเร็วไปหน้าประตู ลูกเลยมาถึง นีล โมเปย์ ยิงเข้าไป

นาที 72 จอร์แดน อายิว ผ่านบอลให้ คริสเตียน เบนเตเก ได้ซัดมุมแคบ แต่ แมตต์ ไรอัน ยังทุบทิ้งออกไปได้

จนนาที 76 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮสมใจ วิลฟรีด ซาฮา ล็อกบอลเข้าซ้าย ก่อนซัดเต็มข้อตุงตาข่าย คริสตัล พาเลซ ตีเสมอเป็น 1-1

จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ แม้ทั้งสองทีมจะเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกแต่กลับไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบเกม คริสตัล พาเลซ เสมอกับ ไบรจ์ตันไป 1-1

post

“เลสเตอร์” บุกถล่ม “วิลลา” 4-1 ตามล่าลิเวอร์พูล สรุปผลพรีเมียร์ลีก

Football-291

“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรง บุกมาถล่ม แอสตัน วิลลา ขาดลอย เดินหน้าไล่ล่าลิเวอร์พูลต่อไป ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 ประจำวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค. คู่ที่น่าสนใจ “สิงห์ผยอง” แอสตัน วิลลา เปิดสนามวิลลา พาร์ค รับการมาเยือนของรองจ่าฝูง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้

เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 20 เลสเตอร์ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก เจมี วาร์ดี จากนั้นนาทีที่ 41 เลสเตอร์ หนีเป็น 2-0 จาก เคเลชี อิเฮียนาโช

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก วิลลา ไล่มาเป็น 1-2 จาก แจ็ค กรีลิช ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 49 เลสเตอร์ หนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะได้เตะมุม เจมส์ แมดดิสัน เปิดบอลเข้าเขตโทษ จอนนี อีแวนส์ โหม่งเข้าไปตุงตาข่าย

ถึงนาทีที่ 75 เลสเตอร์ หนีไปไกลเป็น 4-1 จาก เจมี วาร์ดี และถือเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเอาชนะ แอสตัน วิลลา 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 38 คะแนน รั้งรองจ่าฝูง ตามหลังลิเวอร์พูล 8 คะแนน พร้อมทำสถิติเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก 8 นัดติดต่อกัน

post

“สเปอร์ส” เล็งทุ่ม 50 ลป. รวบอดีตแข้งผีคืนพรีเมียร์ลีก

Football-287

สื่อในอังกฤษเผย สโมสรไก่เดือยทองเล็งกระชากอดีตแข้งปิศาจแดง กลับมาร่วมกอบกู้วิกฤติของทีมในครึ่งฤดูกาลหลัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 12 พ.ย.ว่า ทอตแนม ฮอตสเปอร์ พร้อมมุ่งหน้าสู่ตลาดซื้อขายนักเตะอีกครั้ง ในช่วงเดือนมกราคมนี้ เพื่อเจรจาสู่ของ เมมฟิส เดปาย กลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

พลพรรคไก่เดือยทองออกสตาร์ตซีซั่น 2019-20 ได้อย่างย่ำแย่ รั้งอันดับ 14 ของตารางหลังผ่านไป 12 นัด และมีแต้มห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่ 6 คะแนนเท่านั้น

ทำให้ล่าสุด “เดอะ มิร์เรอร์” ระบุว่า เมาริซิโอ โปเชตติโน เตรียมทุ่มงบสูงถึง 50 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว เมมฟิส เดปาย กลับมาสู่เวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เพื่อผนึกกำลังกับ แฮร์รี เคน และ ซอน เฮือง มิน ช่วยกอบกู้สถานการณ์ของทีมคลับไก่ ให้กลับมาอยู่ในโซนหัวตารางอีกครั้ง

สำหรับ เดปาย เคยล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า ในการย้ายมาสวมยูนิฟอร์มของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2015 ก่อนย้ายไประเบิดฟอร์มในลีก เอิงกับ โอลิมปิก ลียง ต้นสังกัดในปัจจุบัน

post

ต้องให้เขา “แลมพาร์ด” เบียด “คลอปป์” ซิวกุนซือยอดเยี่ยมพรีเมียร์เดือน ต.ค.

Football-286

เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือของลิเวอร์พูล พลาดคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม 3 เดือนติด หลัง แฟรงค์ แลมพาร์ด เฮดโค้ชหนุ่มของเชลซี ซิวรางวัลในเดือน ต.ค. 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 8 พ.ย. ว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือคนหนุ่มของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พุ่งแรงแซงทางโค้งในการคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 

สำหรับผลงานของ “แลมพาร์ด” ที่โชว์ฝีไม้ลายมือเข้าตากรรมการเข้าอย่างจังคือ การพาทัพสิงห์บลูชนะรวด 3 นัดติดในเดือนที่แล้ว (นิวคาสเซิล, เซาท์แธมป์ตัน และ เบิร์นลีย์) เบียดเข้าป้ายเอาชนะ เยอร์เกน คลอปป์ ของลิเวอร์พูล ที่ทำผลงานชนะ 2 เสมอ 1 เช่นเดียวกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ของเลสเตอร์ ซิตี้, เกรแฮม พอตเตอร์ ไบรท์ตัน และ ดีน สมิธ ของ แอสตัน วิลลา

“การคว้ารางวัลส่วนตัวใบนี้ของผมเป็นเวลาที่สุดเพอร์เฟกต์ ผมขอชื่นชมสตาฟฟ์ทุกคนที่ทุ่มเทอย่างหนักกันมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น รวมถึงตัวนักเตะด้วยที่ลงไปโชว์ฟอร์มในสนามได้ยอดเยี่ยม ผมยินดีกับทุกคนจริงๆ” กุนซือวัย 41 ปี กล่าว

post

“อัลลี” เผย “ซอน” ร้องไห้หนัก หลังมีส่วนทำแข้งทอฟฟี่ข้อเท้าหัก

Football-282

ดาวเตะของทอตแนม ฮอตสเปอร์ ระบุ ซอน เฮือง มิน แนวรุกเพื่อนร่วมทีมร้องไห้แทบเงยหน้าไม่ขึ้น หลังมีส่วนทำให้แข้งเอฟเวอร์ตันข้อเท้าหัก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 4 พ.ย. ว่า เดเล อัลลี กองกลางของ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ระบุ ซอน เฮือง มิน ร้องไห้ไม่หยุดในห้องแต่งตัว หลังมีส่วนทำให้ อังเดร โกเมส กองกลางของเอฟเวอร์ตัน ข้อเท้าหัก ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เสมอกันไป 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 79 เมื่อ ซอน เฮือง มิน ไปทำฟาวล์ โกเมส จากด้านหลังก่อนจะไปปะทะ แซร์จ ออริเยร์ อีกที ส่งผลให้ โกเมส ข้อเท้าหัก และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ส่วน ซอน เฮือง มิน โดนใบแดง

อัลลี กล่าวว่า “ผมไม่อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับโกเมสเลย สิ่งที่ผมทำได้คือส่งคำอวยพรที่ดีที่สุดไปให้เขา และขอให้เขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ผมเพิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว และตอนนี้ ซอน เฮือง มิน เสียใจมาก เขากำลังร้องไห้อย่างหนัก แต่มันไม่ใช่ความผิดของเขา เหมือนที่ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า ซอน เป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอมา และเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรแบบนั้น ถ้าคุณได้เห็นปฏิกิริยาของเขา ตอนนี้เขายังเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้เลย เขากำลังร้องไห้หนักมาก แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากเห็นมันเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น”

post

แม่นเลย!ย้อนฟังมูรินโญ่ทำนายอนาคตแม็คโทมิเนย์

Football-280

ย้อนฟังคำทำนายของ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีต่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก่อนเวลานี้กลายเป็นจริงแล้ว ขณะที่แฟนบอล “ปีศาจแดง” รับต้องชม “เฮียมู” ที่เป็นคนเปิดโอกาสให้แข้งสกอตต์ได้ลงเล่น

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังได้รับคำชมอย่างมาก หลังทำผลงานได้เยี่ยมในฤดูกาลนี้ รวมทั้งเกมล่าสุดที่ “ปีศาจแดง” บุกไปชนะ เชลซี 2-1 ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 4 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    มิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะกำลังสำคัญของ “ปีศาจแดง” โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมขาด ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส โดยได้ลงเล่นตัวจริงในเกมลีกทุกแมตช์ เพราะถือเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญในแผนการสร้างทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

    ก่อนหน้านี้ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยออกโรงชม แม็คโทมิเนย์ ว่าจะมีอนาคตสดใสแน่นอน และยกให้เป็น “หมาบ้า” คนใหม่ของ “ปีศาจแดง” หลังจากให้โอกาสได้ลงเล่นในช่วงที่ตัวเองยังทำงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

        มูรินโญ่ แสดงความเห็นไว้ตอนที่ “ปีศาจแดง” เจอกับ บาร์เซโลน่า ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้วว่า “บาร์เซโลน่า ไม่ได้เป็น บาร์เซโลน่า ในเกมนี้ ผมคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะ 1 คนที่มีส่วนกับเรื่องนี้ เนื่องจากผมคิดว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำได้เยี่ยมในแผงมิดฟิลด์”

    “เขาทำได้เหมือนที่ผมเคยเรียกเขา แต่สิ่งที่ผมเรียกมันสื่อไปในแง่ดีนะ นั่นก็คือ เขาเป็นเหมือนหมาบ้า เขาไม่กลัวใคร ต้องยอมรับเขา เขากดดันหนัก และเคลื่อนที่ไปในที่ที่ต้องเข้ากดดันคู่แข่ง เขากดดันสูง และสร้างปัญหาให้กับการขึ้นเกมของ บาร์เซโลน่า” มูรินโญ่ กล่าว

    ขณะที่ ดาวเตะวัย 22 ปี เผยว่า ตนยังคงติดต่อกับ มูรินโญ่ อยู่เสมอ แม้ว่า “เฮียมู” จะโดนไล่ออกจากตำแหน่งไปตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา และยอมรับว่า เป็นหนี้บุญคุณกุนซือชาวโปรตุกีส อย่างมาก

        แม็คโทมิเนย์ เปิดใจว่า “แน่นอนผมไม่อยากพูดอะไรมากนักเกี่ยวกับผู้จัดการทีมคนก่อน แต่ โชเซ่ เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ สำหรับผม เขายังคงติดต่อกับผมในเวลานี้ และมักจะติดต่อมาหาผมหลังจบการแข่งขันบางนัด”

        “เขามีพื้นที่พิเศษอยู่ในใจผมเสมอ และในหัวใจของครอบครัวผม เพราะเขาเป็นคนที่ให้ผมได้เข้ามาอยู่ในทีม เขาเชื่อมั่นในตัวผม เขาเป็นคนที่พร้อมให้ความเชื่อมั่นกับคุณ ผมเป็นหนี้บุญคุณเขามากมายมหาศาล เพราะถ้าไม่มีเขา ผมก็อาจไม่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้” กองกลางสกอตต์ เผย

    ด้าน แฟนบอล “ปีศาจแดง” หลายราย แสดงความเห็นในโลกออนไลน์ถึง มูรินโญ่ กับ แม็คโทมิเนย์ อาทิผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ชื่อว่า @nigej77 ที่ทวีตข้อความว่า “มูรินโญ่ คิดถูกเกี่ยวกับ แม็คโทมิเนย์ นักเตะชั้นยอด”

    ขณะที่ @ORohitO แสดงความเห็นว่า “ผมเกลียดหลายอย่างเกี่ยวกับ มูรินโญ่ แต่ผมจะเป็นหนี้เขาตลอดไปที่ให้ แม็คโทมิเนย์ ได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่” 

post

ชำแหละ 4 ประเด็นร้อน “ลิเวอร์พูล” แซงทุบ “สเปอร์ส”

Football-276

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ไป 2-1 และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้

1.โกลสเปอร์สโคตรเหนียว

เกมนี้ต้องยกนิ้วให้กับ เปาโล กัซซานิกา ผู้รักษาประตูของสเปอร์ส เพราะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเซฟจังหวะยิงของลิเวอร์พูลแทบนับไม่ถ้วน ทำเอาแฟนบอลลิเวอร์พูลบ่นกันระงม ยิงยากยิงเย็นเหลือเกิน

2.กัปตันเฮนโด้ แก้ตัวสำเร็จ

จังหวะที่ลิเวอร์พูลเสียประตูตั้งแต่ต้นเกม เริ่มมาจากความผิดพลาดของ เฮนเดอร์สัน ที่ทำเสียบอลในแดนกลางแล้วถูกสเปอร์สโต้กลับ อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สัน ก็แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ก้มหน้าก้มตาเล่นต่อไป และมาทำประตูให้ทีมได้ในช่วงครึ่งหลัง

3. ฟาบินโญ+เทรนต์ ฟอร์มเฉียบ

เกมนี้ ฟาบินโญ คุมจังหวะเกมอดนกลางให้ลิเวอร์พูลได้ดีมาก การเข้าปะทะ การผ่านบอล ไหลลื่นสุดๆ โดยเฉพาะจังหวะที่กล้าเสี่ยงเปิดบอลเข้าเขตโทษก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง เฮนเดอร์สัน ยิงตีเสมอให้ลิเวอร์พูลสำเร็จ ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็ทำได้ดีเยี่ยมในตำแหน่งแบ็กขวา จังหวะเติมขึ้นมายิง จังหวะฟรีคิก จังหวะเตะมุมจากเขาคนนี้ได้ลุ้นอยู่ตลอด

4.ยังรักษาระยะห่างต่อไป

เกมนี้ถ้าลิเวอร์พูลพลาดแพ้หรือเสมอน่าจะทำให้ แมนฯซิตี้ มีกำลังใจในการไล่ล่าจ่าฝูง แต่ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ไม่ยอมทำแต้มหล่นง่ายๆ จนฮึดกลับมาคว้าชัยชนะในเกมนี้ได้สำเร็จ นำจ่าฝูงต่อไป มีแต้มเหนือแมนฯซิตี้อยู่ 6 คะแนน

post

พูริซิชแฮตทริก! เชลซีเสียวท้ายเกมบุกเชือดเบิร์นลี่ย์ เฮ7นัดทุกรายการ

Football-275

คริสเตียน พูริซิช ปลดล็อคพังประตูในพรีเมียร์ลีกได้เสียที แถมนัดนี้รับบทเป็นพระเอกตะบันแฮตทริกพา เชลซี บุกไปคว้าชัยเหนือเบิร์นลี่ย์ แบบมีเสียวช่วงท้ายเกม 4-2

ทำสถิติคว้าชัย 7 นัดติดต่อกันทุกรายการ เก็บสามแต้มมี 20 คะแนนเท่ากับ เลสเตอร์ รั้งอันดับ 4 ตารางพรีเมียร์ลีกเหมือนเดิม ขณะที่ พูริซิช กลายเป็นแข้งชาวอเมริกันรายที่สองต่อจาก คลินท์ เดมพ์ซีย์ ที่ทำแฮตทริกได้ในเวทีพรีเมียร์ลีก

สนาม : เทิร์ฟ มัวร์

    ครึ่งแรก เริ่มมาได้แค่ 5 นาที ทีมเยือนได้โอกาสทักทายก่อนจาก วิลเลี่ยน ตั้งป้อมหวดด้วยซ้ายบอลเหินหลุดกรอบออกไป

    นาที 18 ดไวท์ แม็คนีล กระชากบอลขึ้นทางซ้ายก่อนหลุดถึงเส้นหลังครอสบอลไปแฉลบ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ก่อนไปเข้ามือ เกป้า นายด่านของสิงห์บลูส์

    นาที 21 กลายเป็นทีมเยือนที่บุกมาขึ้นนำก่อน 1-0 จากความผิดพลาดของ แม็ทธิว ลอว์ตัน แนวรับเจ้าถิ่นที่เสียการครองบอลโดน คริสเตียน พูริซิช ฉกบอลก่อนกระชากเข้าไปสับขาหนี เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ แล้วซัดด้วยซ้ายส่งบอลเลียดเสียบเสาสองอย่างเฉียบขาด

    เจ้าถิ่นไม่ท้อหวังตีเสมอให้ได้ นาที 25 เอริค ปีเตอร์ส ตะบันด้วยซ้ายข้างถนัดนอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ยังไปติดเซฟของ เกป้า 

    อีกสามนาทีต่อมา บอลวางยาวของ วิลเลี่ยน จากขวาขวางมาซ้ายในกรอบให้   คริสเตียน พูริซิช พักอกลงก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปติดตัว นิค โป๊ป เซฟช่วยทีมไว้ได้

    นาทีที่ 30 เบิร์นลี่ย์ พลาดโอกาสตีเสมออย่างจัง บอลเซ็ตเพลย์จากขวาเปิดยาวไปเสาไกลให้ เบน มี ขึ้นโขกชงมาเสาแรก แอชลี่ย์ บาร์นส์ พุ่งมาโขกจ่อๆแต่โหม่งบอลหลุดเสาออกอย่างน่าเสียดาย

    นาทีสุดท้ายครึ่งแรก “สิงห์บลูส์” ทะยานออกนำ 2-0 และเป็นแนวรับเจ้าถิ่นที่ผิดพลาดอีก เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ออกไปสั้นไปโดน วิลเลี่ยน ตัดบอลได้มาเข้าเท้า คริสเตียน พูลิซิช เลี้ยงจี้จากกลางสนามเข้ามาก่อนกระชากหนี ทาร์คอฟสกี้ เข้าไปซัดด้วยขวาบอลไปแฉลบ เบน มี เสียบมุมแคบเสาแรกชนิดที่ นิค โป๊ป ยืนขาตายได้แต่มอง

    จบครึ่งแรก เบิร์นลี่ย์ ตามหลัง เชลซี 0-2

    ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นอยู่ไม่ได้หลังตามหลังถึงสองเม็ด รุกหนักเต็มสูบ นาที 51 บอลขึ้นทางขวาถึง เจย์ โรดริเกซ ตะบันด้วยขวาเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ เกป้า ที่ปิดมุมรับเข้าซองไว้ได้

    ทว่า นาที 56 แฟนเบิร์นลี่ย์เงียบกริบทั้งสนามเมื่อลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาได้ประตูที่สามนำห่าง บอลจาก เมสัน เมาน์ท ครอสด้วยเท้าขวาไปเสาแรก คริสเตียน พูริซิช โฉบมาโหม่งเสยไปเสาไกล ให้เชลซีนำโด่ง 3-0 และเป็นแฮตทริกของพูริซิชในเกมนี้

    ไม่แค่นั้น อีก 2 นาทีถัดมา สกอร์มาไหลเป็น 4-0 จากจังหวะสวนกลับ แทมมี่ อบราฮัม ลากตะลุยขึ้นมาแล้วไหลออกขวาให้ วิลเลี่ยน เลี้ยงมาสับเรียดผ่านมือ โป๊ป เสียบเสาไกลเข้าไปเลย

    นาทีที่ 76 เชลซี มาได้จุดโทษ เมื่อ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ตัวสำรองล้มลงไป ทว่าจากการเช็กวีเออาร์ปรากฎว่าเป็นการพุ่งล้มของดาวเตะสิงห์บลูส์ ทำให้มีการเปลี่ยนคำตัดสิน และแจกใบเหลืองให้ ฮัดสัน-โอดอย แทน

    เจ้าบ้านมาได้ประตูปลอบใจ 1-4 ในนาทีที่ 86 เมื่อ ร็อบบี้ เบรดี้ ตัดบอลได้จาก พูลิซิช แถวกลางสนาม ก่อนไหลให้ เจย์ โรดริเกซ ลากมาตะบันด้วยขวาจากระยะกว่า 30 หลาเต็มแรง บอลพุ่งผ่านมือ เกปา เสียบใต้คานสุดสวย

    นาที 89 เบิร์นลี่ย์ ไม่ถอดใจไล่มาอีกลูก เมื่อ ดไวท์ แม็คนีล ยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษฝั่งขวา บอลไปแฉลบ โทโมรี่ เปลี่ยนทางทำให้ เกปา หลงขาตาย และลูกก็เข้าประตูไป แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น จบเกม เชลซี เอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 4-2 คว้าชัย 7 นัดรวดในทุกรายการ

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โป๊ป – แม็ทธิว ลอว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, เอริค ปีเตอร์ส – ดไวท์ แม็คนีล, แจ็ค คอร์ก, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, เจฟฟ์ เฮนดริค (ร็อบบี้ เบรดี้ น.84)- แอชลี่ย์ บาร์นส์ (มาเตย์ วิดร้า น.63), เจย์ โรดริเกซ  

        ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดช์

        เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, คูร์ท ซูม่า, ฟิคาโย่ โทโมรี่, มาร์กอส อลอนโซ่ (รีซ เจมส์ น.63) – มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาน์ท – วิลเลี่ยน (คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น.72), แทมมี่ อบราฮัม (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.70), คริสเตียน พูริซิช 

        ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด  

        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์  

post

จิ้งจอกสยามยำสยอง!ตัดเกรดแข้งเลสเตอร์เกมกระซวกโหดเซาธ์ฯ

Football-274

เป็นสกอร์ที่มโหฬารชวนตะลึงดีแท้สำหรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกไปยำใหญ่ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ต้นเกม ถึงบ้านแบบไม่มีเกรงใจ

ด้วยสกอร์ 9-0 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยที่เกมนี้ เลสเตอร์ มีผู้เล่นถึงสองคนที่กดแฮตทริกได้ ขณะที่แบ็กซ้ายตัวเก่งอย่าง เบน ชิลเวลล์ ก็วิ่งเติมเกมรุกอย่างเมามันส์ และนี่คือผลสอบของลูกทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในเกมสุดโหดเมื่อคืนที่ผ่านมา

 11 ผู้เล่นตัวจริง

    – แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล : 7
        แม้เป็นเกมที่ เลสเตอร์ บุกยำอยู่ข้างเดียว แต่ ชไมเคิ่ล ก็มีโชว์เซฟสวยๆ ให้เห็น 2 ครั้ง

    – เบน ชิลเวลล์ : 9
        เป็นเกมที่เล่นได้โดดเด่นมาก เติมเกมรุกได้มีประสิทธิภาพสุดๆ โดยนอกจากเป็นคนทำประตูขึ้นนำ 1-0 แล้ว ยังทำแอสซิสต์สวยๆ ได้อีก 2 ครั้ง
    
    – ชัคลาร์ โซยุนชู : 7.5
        คุมแนวรับได้ยอดเยี่ยม โดดเด่นทั้งลูกกลางอากาศและการเข้าแท็กเกิ้ล

    – จอนนี่ อีแวนส์ : 7
        ไม่ได้เจองานหนักอะไรมาก แถมเกือบมีชื่อเป็นคนทำสกอร์ในช่วงครึ่งหลังด้วย

    – ริคาร์โด้ เปเรยร่า : 7.5
        อาจจะเติมเกมรุกไม่มันส์เท่า ชิลเวลล์ แต่เกมรับทำได้เยี่ยมมาก โดยเฉพาะการเข้าแท็กเกิ้ล

    – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ : 8
        เล่นได้เยี่ยมมาก คุมแดนกลางได้โดดเด่น เข้าแท็กเกิ้ลได้ถึง 7 ครั้ง และมีการผ่านบอลที่แม่นยำ

   – อาโยเซ่ เปเรซ : 9
        ฮอตมากๆ เป็นเกมที่เจ้าตัวจบสกอร์ได้อย่างเด็ดขาด จนทำแฮตทริกได้ ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกไปนั่งพักช่วงท้ายเกม

    – ยูริ ตีเลอมันส์ : 8
        ฟอร์มโดดเด่นต่อเนื่องสำหรับมิดฟิลด์ชาวเบลเยียม และเกมนี้ก็มีทั้งยิงและจ่ายอย่างละ 1

    – เจมส์ แมดดิสัน : 7.5
        เล่นได้กลางๆ และเกือบจะเป็นเกมที่ไม่มีทั้งแอสซิสต์และประตู จนกระทั่งมายิงฟรีคิกสุดสวยเป็นประตู 8-0 ช่วง 5 นาทีสุดท้าย

    – ฮาร์วีย์ บาร์นส์ : 8
        แม้ไม่มีสกอร์ แต่เป็นเกมที่เจ้าตัวเล่นได้โดดเด่นทีเดียว และก็มี 1 แอสซิสต์กับการหยอดบอลสุดแม่นให้ เปเรซ กระทุ้งประตู 6-0

    – เจมี่ วาร์ดี้ : 9
        ยิ่งแก่ยิ่งเก่งจริงๆ สำหรับอดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษวัย 32 ปี มีการเข้าทำที่เฉียบขาด และโชว์สปีดเข้าไปเรียกจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนสังหารเข้าไปไม่พลาดเป็นประตูปิดเกม 9-0 พร้อมกับทำแฮตทริกให้กับตัวเองสำเร็จ

 สำรองที่ได้ลงเล่น
    – มาร์ค อัลไบรท์ตัน (แทน บาร์นส์ น. 72) : 6

        มีการโชว์ลากเลื้อยให้เห็น และได้ลองยิงไป 1 ครั้ง

    – เดมาราย เกรย์ (แทน เปเรซ น. 74) : 5
        ไม่มีบทบาทอะไรมาก